Girl in a jacket
สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
National Defence Studies Institute

เรื่อง: การพัฒนา การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของกองบัญชาการกองทัพไทย

หมวดหมู่:
งานวิจัย
มิติ:
มิติการทหาร/Military
พื้นที่/ขอบเขต:
ภายในประเทศ/Domestic/Local
ผู้เขียน:
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, พลตรี ไพศาล งามวงษ์วาน
หน่วยงานเจ้าของ:
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
ปีที่พิมพ์:
2559
จำนวนหน้า:
การเปิดเผยข้อมูล:
สาธารณะ

บทคัดย่อ:

ก บทคัดย่อ เรื่อง การพัฒนา การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ของกองบัญชาการกองทัพไทย ลักษณะวิชา การทหาร ผู้วิจัย พลตรี ไพศาล งามวงษ์วาน หลักสูตร วปอ. รุ่นที่ ๕๙ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย เพื่อศึกษาการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของ กองบัญชาการกองทัพไทย และเพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนา การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของ กองบัญชาการกองทัพไทย โดยได้ก าหนดขอบเขตของการวิจัยในด้านเนื้อหาเพื่อศึกษาถึงการพัฒนา การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ของกองบัญชาการกองทัพไทย มีการก าหนดผู้ให้ข้อมูลส าคัญ โดยแบ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของหน่วย ผู้ปฏิบัติงานที่น านโยบายไปสู่การปฏิบัติ และข้าราชการทั่วไป ผู้วิจัยมุ่งศึกษาในกรอบของกองบัญชาการกองทัพไทย โดยมุ่งเน้น กรอบการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ของกองบัญชาการกองทัพไทย ส าหรับการก าหนดระเบียบวิธีการวิจัยหรือกระบวนการวิธีวิจัย ตามการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ก าหนดระเบียบวิธีการวิจัย โดยการใช้กระบวนการวิจัยเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยครั้งนี้ พบว่า กองบัญชาการกองทัพไทย มีการจัดการองค์ความรู้ของหน่วยงาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยก าหนดให้ กรมก าลังพลทหารเป็นเลขานุการในคณะท างานจัดการองค์ความรู้ ของกองบัญชาการกองทัพไทย และให้แต่ละหน่วยขึ้นตรงด าเนินการจัดการองค์ความรู้ ซึ่งการที่ จะพัฒนาการจัดการองค์ความรู้ของกองบัญชาการกองทัพไทยให้ส าเร็จนั้น มีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาวะผู้น าและกลยุทธ์ วัฒนธรรมองค์การ เทคโนโลยีสารสนเทศทางด้านการจัดการความรู้ การวัดผล และโครงสร้างพื้นฐาน โดยปัจจัยดังกล่าวเป็นองค์ประกอบส าคัญที่จะช่วยให้องค์การสามารถ ด าเนินกิจกรรมการจัดการความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ข้อเสนอแนะ กองบัญชาการกองทัพไทยควรเห็นความส าคัญของการจัดการความรู้และบรรจุให้อยู่ในยุทธศาสตร์ เพื่อขับเคลื่อนการท างานของกองบัญชาการกองทัพไทย ทั้งส่งเสริมการใช้และพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพิ่มช่องทางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเผยแพร่ให้กับบุคลากรและผู้ที่สนใจ และให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานทุกระดับ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน จึงจะสามารถ พัฒนาการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของกองบัญชาการกองทัพไทยให้ยั่งยืนได้นั่นเอง

abstract:

ABSTRACT Title Development of Learning Organization of the Royal Thai Armed Forces Headquarters Field Military Name Major General Paisarn Ngarmwongwan Course NDC Class 59 This research aims to study the learning organization of the Royal Thai Armed Forces and to study how to develop. Important informants are assigned in three levels : high executive, practitioners who put policies into action and general government officials. The researcher focuses on the frameworks of the Royal Thai Armed Forces, focusing on the framework of learning organization of the Royal Thai Armed Forces. The methodology of qualitative research process is applied. The results of this research found that the Royal Thai Armed Forces’ knowledge management has been operational since 2009, with the Department of Army Personnel assigned as secretary to the Knowledge Management Team of the Thai Armed Forces. Each unit is directly in the management operation. The knowledge has been assigned to each unit directly to the Thai Armed Forces. The development of the knowledge management of the Royal Thai Armed Forces depends upon factors related to leadership and strategy, organizational culture, information technology in knowledge management, measurement, and infrastructure. These factors are important elements that will enable the organization to effectively manage the knowledge management activities. The Royal Thai Armed Forces should recognize the importance of knowledge management and put them into a strategic drive. The work of the Royal Thai Armed Forces both promote the use and development of information technology to keep up. Increase the channels for exchange, learning, and dissemination to personnel and interested persons, and for all levels of management and staff to participate in solving common problems. Therefore, it will be possible to develop a learning organization of the Royal Thai Armed Forces.