เรื่อง: การสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงของกองทัพบกในภาวะไม่ปกติโดยภาคเอกชน
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
มิติการศึกษา/Education
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, พลโท สิริศักดิ์ วรเจริญ
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2556
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
สาธารณะ
|
|
บทคัดย่อ:
บทคัดยอ ่
เรือง การสํารองนํ
ามันเชื
อเพลิงของกองทัพบกในภาวะไม่ปกติโดยภาคเอกชน
ลักษณะวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ผ้วิจัย พลโท สิริศักดิ- วรเจริญ หลักส ู ูตร วปม. ร่นที 7 ุ
การวิจัย เรืองการสํารองนํามันเชือเพลิงของกองทัพบกในภาวะไม่ปกติ โดยภาคเอกชน
มีมูลเหตุจากการที หลักการการส่งกาลังบํารุงทางทหาร แผนระดมสรรพก ํ าลังของกองทัพไทยใน ํ
ด้านการส่งกาลังบํารุง ตลอดจน นโยบายแนวความคิด ของกองทัพบก ได้ก ํ าหนดเป็ นหลักการให้มี ํ
การสํารองนํามันเชือเพลิง เพือรองรับการปฏิบัติภารกิจของกองทัพบกในภาวะไม่ปกติ ซึ งรวมถึง
ภาวะสงคราม ไว้ที ๔๕ วันส่งกาลัง แต ํ ่เนืองจากข้อจํากดด้านงบประมาณ จึงทําให้หลักการดังกล ั ่าว
ไม่สามารถทีจะปฏิบัติให้เกิดเป็ นรูปธรรมขึนได้ ตังแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนัน ผู้วิจัย จึงได้เห็น
ความสําคัญในการวิจัยเรืองนี โดยกาหนดวัตถุประสงค์ในการวิจัยไว้ ๓ ประการคือ ประการแรก ํ
เพือศึกษาเกี
ยวกับการสํารองนํามันเชือเพลิงของประเทศ ของภาคเอกชน และของกองทัพบก
ประการทีสอง เพือวิเคราะห์ ปัญหา และผลกระทบ ของกองทัพบกในการปฏิบัติภารกิจทีได้รับ
มอบในภาวะไม่ปกติ ในกรณีทีกองทัพบกไม่มีการสํารองนํามันเชือเพลิงไว้ และประการสุดท้าย
เพือให้ได้ข้อเสนอแนะ และแนวทางการใช้ประโยชน์จากการสํารองนํามันเชือเพลิงของภาคเอกชน
ในภารกิจของกองทัพบก ในภาวะไม่ปกติ โดยมีขอบเขตการวิจัยเฉพาะการใช้นํามันเชือเพลิงของ
กองทัพบก เท่านัน และเป็ นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลทีเกียวข้อง อันได้แก่
ยุทธศาสตร์เพือความมันคงทางด้านพลังงาน หลักการการส ่งกาลังบํารุงทางทหาร บทบัญญัติของ ํ
กฎหมาย ประกาศ และระเบียบทีเกียวข้อง การสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสํารองนํามันเชือเพลิง
และ การเปรียบเทียบข้อมูลปริมาณนํามันสํารองของภาคเอกชน กบข้อมูลความต้องการการใช้ ั
นํามันเชือเพลิงในภาวะไม่ปกติ ของกองทัพบก
ผลการวิจัย สรุปได้วา กฎหมาย ประกาศ และระเบียบ ของภาครัฐทีมีอยู ่ นั ่ น สนับสนุน
เกือกูลต่อการที กองทัพบกจะสามารถใช้ประโยชน์จากการสํารองนํามันเชือเพลิงของภาคเอกชนได้
เพียงแต่ในรายละเอียดของขันตอนและวิธีการปฏิบัตินัน ยังไม่มีการกาหนดเป็ นแผนการปฏิบัติไว้ ํ
ซึงผู้วิจัยได้จัดทําข้อเสนอแนะไว้ ๒ ส่วน คือ ส่วนของการกาหนดขั ํ นตอนการปฏิบัติ และส่วนของ
การพิจารณาแกไข กฎหมาย ประกาศ และระเบียบต ้ ่างๆ เพือให้ได้แนวทางในการปฏิบัติร่วมกนั
ระหวางกองทัพบก ก ่ บหน ั ่วยงานทีเกียวข้อง ในทางทีเหมาะสม ต่อไป
ก
abstract:
ABSTRACT
Title : The Royal Thai Army's method of reserving fuel consumption during times of disorder
conducted by the private sector.
Field : Science and Technology
Name : Lt.Gen.Sirisak Voracharoen Course : NDC (SPP) Class : 7
The research and development of The Royal Thai Army’s method of reserving fuel consumption
during times of disorder conducted by the private sector states that the problem is not due only from
military logistics. The problem also stems from budgets constraints more over, this then also leads to the
problem of maintaining the protocol of reserving fuel for military use for a minimum of 45 days in times
of war and civil unrest.
Seeing the importance of this issue, The Royal Thai Army must act swiftly and tactfully to the
problem at hand. Which has been narrowed down to 3 main topics. First of all is to study the fuel reserves
of the private sector and The Royal Thai Army, Secondary is to analyze the cause and effect caused by the
problem at hand, Lastly is to get feedback and guidelines for use of the alternate fuel of the private sector
in the Army's missions.
The study concluded that the laws and regulations of the state supports this topic, but the details
that is required to maintain and sustain this protocol has yet to be completed.
Inconclusion the solution to this problem is to revision of the Laws and Regulations prohibiting
the completion of the details required to maintain and sustain this protocol, Also a guideline must be made
on how to maintain and sustain this protocol.