เรื่อง: แนวทางการน้อมนำศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนางานด้านกิจการพลเรือนกองทัพอากาศ
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
มิติการทหาร/Military
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, พลอากาศตรี ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2560
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
สาธารณะ
|
|
บทคัดย่อ:
ก
บทคัดย่อ
เรื่อง แนวทางการน้อมน าศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนางาน ด้านกิจการพลเรือน
ของกองทัพอากาศ
ลักษณะวิชา การทหาร
ผู้วิจัย พลอากาศตรีฐานัตถ์ จันทร์อ าไพ หลักสูตร วปอ. รุ่นที่ ๖๐
การศึกษาวิจัยเรื่อง แนวทางการน้อมน าศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนางานด้านกิจการพลเรือน
ของกองทัพอากาศ เป็นเอกสารวิจัยเชิงคุณภาพ ลักษณะวิชาการทหาร เนื่องจากกองทัพอากาศ
มีความพร้อมในด้านต่าง ๆ ที่สามารถเข้าปฏิบัติภารกิจในด้านกิจการพลเรือน การพัฒนาประเทศและ
ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีภายใต้สภาวะแวดล้อมในปัจจุบันและในอนาคต ผู้วิจัยได้น าหลัก
SWOT Analysis เข้ามาวิเคราะห์ปัจจัยภายในซึ่งเป็นการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โดยใช้หลัก “2S4M”
และวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกโดยเป็นการวิเคราะห์โอกาส-อุปสรรค โดยใช้หลักของ PEST Analysis
เพื่อศึกษาวิเคราะห์ปัญหางานด้านกิจการพลเรือนของกองทัพอากาศในปัจจุบัน และผู้วิจัยได้รวบรวม
ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับงานด้านกิจการพลเรือน และศึกษาทฤษฎี
หลักการทรงงาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชา เพื่อก าหนดแนวทางการน้อมน า
ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนางานด้านกิจการพลเรือนของกองทัพอากาศ ผลการวิจัยผู้วิจัยได้แนวทาง
ในการพัฒนางานด้านกิจการพลเรือนของกองทัพอากาศทั้งสิ้น ๔ แนวทาง ดังนี้๑. “พัฒนาทักษะ
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือนให้มีความรู้ความสามารถในระดับมืออาชีพ โดยประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีที่ทันสมัย สนับสนุนการปฏิบัติการงานกิจการพลเรือน การประชาสัมพันธ์ การช่วยเหลือ
ประชาชน และการบรรเทาสาธารณภัย” ๒. “บูรณาการในการประสานงานกับประชาชน เปลี่ยนแปลง
วิสัยทัศน์สร้างจิตส านึก สร้างความเป็นปึกแผ่น เป็นพันธมิตรกับหน่วยงานของรัฐและเอกชน”
๓. “บุคลากรด้านกิจการพลเรือนของกองทัพอากาศควรมีความรู้ความสามารถในระดับสูงกว่าปริญญาตรี
เพื่อตอบรับสถานการณ์และสภาวะแวดล้อมของโลกในปัจจุบัน”๔. “ปรับโครงสร้าง เพิ่มความยืดหยุ่น
ก าหนดทิศทางที ่ชัดเจนเพิ ่มความรวดเร็วและแม ่นย าในการปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือน
ของกองทัพอากาศ” ผู้วิจัยได้เสนอแนวทั้ง ๔ แนวทาง เพิ่มเติมลงในกลยุทธ์ย่อยของแผนแม่บท ทอ.
ด้านกิจการพลเรือน โดยให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ ๑๒
ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ยุทธศาสตร์ของกองทัพไทย ยุทธศาสตร์ทหาร ยุทธศาสตร์ ทอ. ๒๐ ปี และ
แผนแม่บท ทอ. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการก าหนดวิสัยทัศน์การก าหนดกลยุทธ์
และการด าเนินตามกลยุทธ์ของงานด้านกิจการพลเรือนระดับกองทัพอากาศ ที่เหมาะสมต่อไป
abstract:
ข
ABSTRACT
Title Application of the King’s Philosophy to The Royal Thai Air Force’ s
Civil Affairs Capacity Development
Field Military
Name Air Vice Marshal Thanat Chanampai Course NDC Class 60
The research about Application of the King’s Philosophy to The Royal Thai
Air Force’ s Civil Affairs Capacity Development was based on qualitative methods in
the field of military. Currently the Royal Thai Air Force has the capability and
readiness of personnel and the ability to access the area of disaster rapidly and
instantly to a certain level. SWOT Analysis was used in this research to identify
internal factors (strengths and weaknesses) by using 2S4M and external factors
(opportunities and threats) by using PEST analysis. The researcher has documented
data gathered from the work principles in the Royal Project, the sufficiency economy
philosophy and the King’s philosophy and especially from in-depth interviews with
the prominent and directly experienced persons. There are 4 main recommendations
based on the results of this research 1. To develop the technological skills among the
civil affairs officers which will support in the tasks of civil affairs, public relation and
disaster relief. 2. To integrate the coordination among people, vision change,
promotion of consciousness, social solidarity enhancement and building the
partnership network between government and the private sector. 3. Because of many
changes in today’s world, civil affairs officers should have further education higher
than Bachelor degree. 4. The Royal Thai Air Force’s Civil Affairs should focused on
restructuring structure, the flexibility in the work and clear policy goals direction. The
researcher presents this 4 guidelines to the Royal Thai Air Force Strategy which should
be compatible with the government policy, the 12th National Economic and Social
Development Plan, the 20-year National Strategy, Royal Thai Armed Forces Strategy,
military strategy, the 20-year Royal Thai Air Force Strategy and Royal Thai Air Force
Master Plan. These guidelines can be useful for further direction of the vision and
strategy of Royal Thai Air Force.
