Girl in a jacket
สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
National Defence Studies Institute

เรื่อง: นวัตกรรมการจัดการท่องเที่ยวคุณภาพสูง กรณีศึกษาเขตพื้นที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา,(วปอ.10256)

หมวดหมู่:
งานวิจัย
มิติ:
มิติเศรษฐกิจ/Economics
พื้นที่/ขอบเขต:
ภายในประเทศ/Domestic/Local
ผู้เขียน:
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, นาย สมเกียรติ วิริยะกุลนันท์,(วปอ. 10256)
หน่วยงานเจ้าของ:
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
ปีที่พิมพ์:
2566
จำนวนหน้า:
การเปิดเผยข้อมูล:
สาธารณะ

บทคัดย่อ:

ก บทคัดย่อ เร่ือง นวัตกรรมการจัดการท่องเท่ียวคุณภาพสูง กรณีศึกษาเขตพื้นท่ีเขาใหญ่ จังหวัด นครราชสีมา ลักษณะวิชา การเศรษฐกิจ ผู้วิจัย นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ หลักสูตร วปอ. รุ่นที ่ 66 งานวิจัยครั้ง มีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) เพ่ือศึกษาศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพสูง ในเขตพ้ืนที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา 2) เพ่ือศึกษาการรับรู้กฎหมายและกระบวนทัศน์การบริหาร การจัดการการท่องเที่ยวคุณภาพสูงในพ้ืนที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา และ3) เพ่ือเสนอแนวทาง พัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการการท่องเที่ยวคุณภาพสูงในเขตพ้ืนที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การท่องเที่ยวในเขตพ้ืนที่เขสใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จ านวนทั้งสิ้น 30 คน มีการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Context Analysis) และ สังเคราะหข์้อมูลทฤษฎีหลักการต่าง ๆ และน าเสนอข้อมูลแบบรายงานวิจัยเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1. แหล่งท่องเที่ยวเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีจุดแข็ง คือ มีกิจกรรมที่หลากหลายเหมาะสมกับ นักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เหมาะแก่การมาพักผ่อน แต่มี จุดอ่อน ได้แก่ การคมนาคมขนส่งทั้งภาครัฐและเอกชนยังรองรับการบริการของนักท่องเที่ยวยังไม่ ครอบคลุมพ้ืนที่การท่องเที่ยว มาตรฐานการรับรองที่พักจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการกวาดขัน หรือใช้กฏหมายเข้ามารองรับ ร้านขายของที่ระลึกมีน้อย จึงท าให้ของที่ระลึกไม่เป็นที่รู้จักในหมู่ นักท่องเที่ยว 2. ด้านการบริหารจัดการ พบว่า ยังมีการบริหารจัดการที่ไม่ดีพอ ไม่ตอบสนองต่อความ ต้องการของนักท่องเที่ยว ทั้งในด้านที่พัก ในด้านสถานประกอบการ ในด้านการบริการนักท่องเที่ยว ในด้านสุขอนามัยและมาตรฐานความสะอาด ในด้านร้านค้า/ร้านขายสินค้าที่ระลึก และในด้าน การคมนาคมขนส่ง และในภาพรวมของสภาพเศรษฐกิจในเขตพ้ืนที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พบว่า เผชิญกับปัญหาสภาพเศรษฐกิจหลายประการในปัจจุบัน เช่น การพ่ึงพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนาที่ไม่สมดุล การขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตร ความไม่เสถียรของระบบนิเวศ การขาดการสนับสนุนและ นโยบายที่ชัดเจนจากภาครัฐ เป็นต้น 3. การรับรู้กฎหมายและกระบวนทัศน์การบริหารการจัดการ การท่องเที่ยวคุณภาพสูงในเขตพ้ืนที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พบว่า ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การท่องเที่ยวคุณภาพสูงในพ้ืนที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับ กฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่เก่ียวข้องกับการท่องเที่ยว เมื่อจ าแนกตามกลุ่ม พบว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้ประกอบการภาคเอกชน มีการรับรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวมากกว่าประชาชน ที่อาศัยในพ้ืนที่ ทั้งนี้เนื่องมากจาก ความแตกต่างทางระดับการศึกษา การเรียนรู้และการตีความภาษา ของกฎหมายที่เข้าใจได้ยาก 4. แนวทางพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ในเขตพ้ืนที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา จากข้อค้นพบจากงานวิจัยนี้ แบ่งเป็น 8 แนวทาง ได้แก่ 4.1 การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว 4.2 การส่งเสริมการท่องเที่ยว ข เชิงอนุรักษ์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4.3 การพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในเขต พ้ืนที่ 4.4 การสร้างแบรนด์และการตลาดในดึงดูดความสนใจ 4.5 การสร้างเครือข่ายความร่วมมือใน การพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพ้ืนที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาอย่างยั่งยืน 4.6 การพัฒนา โครงสร้างพ้ืนฐานหรือสาธารณูปโภคพ้ืนฐาน 4.7 การจัดท าโครงการวิจัยและพัฒนา เพ่ือหาโมเดล ต้นแบบ 4.8 การสร้างสรรค์ประสบการณ์ท่องเที่ยววิถีใหม่

abstract:

ค Abstract Title Innovative Management of High-Quality Tourism: A Case Study of the Khao Yai Area, Nakhon Ratchasima Province Field Economics Name Mr. Somkiet Wiriyakulnant Course NDC Class 66 Research’s objectives are 1) Investigate the potential of high-quality tourism in the Khao Yai area, Nakhon Ratchasima Province, 2) Study the perception of laws and management paradigms regarding high-quality tourism in the Khao Yai area, Nakhon Ratchasima Province, and 3) Propose guidelines for developing innovative management of high-quality tourism in the Khao Yai area, Nakhon Ratchasima Province. A qualitative research methodology was employed, involving 30 participants from government, private, and public sectors associated with tourism in the Khao Yai area. Data were analyzed using content analysis, synthesized with various theoretical principles, and presented in a descriptive research report. The research findings are as follows: 1. The Khao Yai area in Nakhon Ratchasima Province has strengths such as diverse activities suitable for tourists of all ages and rich natural resources ideal for relaxation. However, weaknesses include inadequate transportation services from both public and private sectors that do not fully cover tourist areas, lack of accreditation standards for accommodations, insufficient souvenir shops leading to unrecognized local souvenirs, and lack of enforcement of relevant regulations. 2. Management issues include inadequate response to tourist needs in terms of accommodations, business establishments, tourist services, hygiene and cleanliness standards, and souvenir shops. The overall economic condition in the Khao Yai area faces several challenges, including reliance on tourism, agricultural price volatility, natural resource management, imbalanced development, agricultural labor shortages, ecosystem instability, and lack of clear support and policies from the government. 3. Regarding the perception of laws and management paradigms for high-quality tourism in the Khao Yai area, it was found that stakeholders have knowledge and understanding of relevant laws and regulations. Government officials and private sector operators are more aware of tourism-related laws than residents, due to differences in education levels and the complexity of legal language. 4. The proposed guidelines for developing innovative management of high-quality tourism in the Khao Yai area, based on the research findings, include eight strategies: 4.1 Utilizing digital technology in tourism management 4.2 Promoting eco-friendly and ง sustainable tourism 4.3 Developing tourism-related personnel in the area 4.4 Creating branding and marketing to attract interest 4.5 Establishing collaborative networks for sustainable tourism development in the Khao Yai area 4.6 Improving infrastructure and basic utilities 4.7 Conducting research and development projects to create model prototypes 4.8 Creating new tourism experiences