เรื่อง: การขับเคลื่อนสำนักงานตำรวจแห่งชาติสู่การเป็นองค์กรนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการป้องกันการปราบอาชญากรรมและการบังคับใช้กฎหมาย,(วปอ.10253)
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
มิติการเมือง/Politics
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, พลตำรวจตรี ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์,(วปอ. 10253)
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2566
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
สาธารณะ
|
|
บทคัดย่อ:
ก
บทคัดย่อ
เรื่อง การขับเคล่ือนส านักงานต ารวจแห่งชาติสู่การเป็นองค์กรนวัตกรรม
เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และ
การบังคับใช้กฎหมาย
ลักษณะวิชา การเมือง
ผู้วิจัย พลต ารวจตรี ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ หลักสูตร วปอ. รุ่นที่ ๖๖
การศึกษาวิจัยเรื่อง "การขับเคล่ือนส านักงานต ารวจแห่งชาติสู่การเป็นองค์กรนวัตกรรม
เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการบังคับใช้กฎหมาย"
มีวัตถุประสงค์หลัก ๓ ประการ คือ (๑) ศึกษาฉากทัศน์ในการขับเคล่ือนส านักงานต ารวจแห่งชาติสู่
การเป็นองค์กรนวัตกรรม (๒) พัฒนากรอบอนาคตของการขับเคล่ือนส านักงานต ารวจแห่งชาติสู่การ
เป็นองค์กรนวัตกรรม และ (๓) เสนอแนะเชิงนโยบายของการขับเคล่ือนส านักงานต ารวจแห่งชาติสู่
การเป็นองค์กรนวัตกรรม การวิจัยนี้ใช้วิธีการแบบผสมผสาน โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายท้ังใน
ระดับบริหารและระดับปฏิบัติการ ผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และการส ารวจเชิง
ปริมาณ เพื่อให้ได้มุมมองท่ีครอบคลุมและสะท้อนความเป็นจริงขององค์กรมากท่ีสุด เพื่อน ามา
ประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทขององค์กรต ารวจไทย
ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยส าคัญท่ีมีผลต่อการเปล่ียนผ่านองค์กรไปสู่การเป็นองค์กร
นวัตกรรมคือ "ผู้น า" ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีภาวะผู้น าเชิงนวัตกรรม ( Innovative Leadership)
ท่ีเน้นความสามารถในการสร้างวิสัยทัศน์ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และสร้างบรรยากาศท่ีเอื้อต่อ
การเกิดนวัตกรรมในองค์กร ในขณะท่ีปัจจัยภายนอกท่ีสร้างความท้าทายอย่างมากต่อสังคมและ
องค์กรต ารวจคือ "เทคโนโลยี" ซึ่งมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและส่งผลให้เกิดรูปแบบอาชญากรรม
ใหม่ ๆ ท่ีซับซ้อนมากขึ้น จากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิค Foresight ผู้วิจัยได้ก าหนดกรอบ
อนาคตออกเป็น ๔ มิติ ได้แก่ (๑) ความเป็นเลิศเชิงนวัตกรรม ท่ีองค์กรมีการพัฒนานวัตกรรมอย่าง
ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูง (๒) การปลดปล่อยศักยภาพ ท่ีองค์กรสามารถดึงศักยภาพของ
บุคลากรและทรัพยากรมาใช้ได้อย่างเต็มท่ี (๓) ความวุ่นวายท่ีขับเคล่ือนด้วยเทคโนโลยี ท่ีองค์กรต้อง
เผชิญกับความท้าทายจากเทคโนโลยีและอาชญากรรมรูปแบบใหม่ และ (๔) เงามืดท่ีซบเซา ท่ีองค์กร
ไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับการเปล่ียนแปลง
นอกจากนี้ การวิ จัยยังได้สังเคราะห์แนวทางการขับเคล่ือนองค์กรโดยพบว่ามี
๘ องค์ประกอบส าคัญ คือ (๑) ผู้น า (๒) วัฒนธรรมองค์กร (๓) วิสัยทัศน์องค์กร (๔) การพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ (๕) ระบบข้อมูลองค์กร (๖) การประเมินผลการท างานและความส าเร็จ (๗) รูปแบบ
องค์กร และ (๘) กิจกรรมส่งเสริมนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ มีความสอดคล้องกับแนวคิดการ
จัดการนวัตกรรมใน ๓ มิติหลัก คือ ทิศทางกลยุทธ์ การเรียนรู้ และการเติบโตและคุณค่า
ผลการวิจัยนี้มีความส าคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาส านักงานต ารวจแห่งชาติในอนาคต
โดยเฉพาะในด้านต่างๆ ดังนี้ (๑) การเตรียมความพร้อมเชิงกลยุทธ์ ท่ีช่วยให้ผู้บริหารระดับสูงสามารถ
ข
วางแผนและก าหนดทิศทางการพัฒนาองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ (๒) การพัฒนาบุคลากร โดยน า
แนวทางการขับเคล่ือนองค์กรท่ีได้จากการวิจัยไปใช้ในการออกแบบหลักสูตรการฝึกอบรมและพัฒนา
ศักยภาพของเจ้าหน้าท่ีต ารวจทุกระดับ (๓) การปรับปรุงกระบวนการท างาน ด้วยการน าเทคโนโลยี
และนวัตกรรมมาใช้ในการปฏิบัติงาน (๔) การสร้างความร่วมมือ โดยเน้นการสร้างเครือข่ายและความ
ร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ และ (๕) การสร้างภาพลักษณ์องค์กร ผ่านการพัฒนาสู่การเป็นองค์กร
นวัตกรรม การน าผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้อย่างจริงจังและต่อเนื่องจะช่วยยกระดับขีดความสามารถ
ขององค์กรในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและความคาดหวังของประชาชน
การเปล่ียนแปลงสู่การเป็นองค์กรนวัตกรรมเป็นกระบวนการท่ีต้องใช้เวลาและความ
ทุ่มเทจากทุกภาคส่วนในองค์กร ผลการวิจัยนี้จึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการพัฒนาท่ีต้องด าเนินการ
อย่างต่อเนื่องและปรับเปล่ียนให้เหมาะสมกับบริบทท่ีเปล่ียนแปลงไปในอนาคต การสร้างวัฒนธรรม
องค์กรท่ีเอื้อต่อการเกิดนวัตกรรม การส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
และการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมภายในองค์กร จะเป็นปัจจัยส าคัญท่ีช่วยให้ส านักงานต ารวจ
แห่งชาติสามารถพัฒนาสู่การเป็นองค์กรนวัตกรรมได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรมีความพร้อม
ในการรับมือกับความท้าทายในอนาคต และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของสังคมได้อย่างมี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
abstract:
ค
Abstract
Title Driving the Royal Thai Police Office towards Becoming an Innovative
Organization to Support Government Policy in Crime Prevention,
Suppression, and Law Enforcement
Field Politics
Name Police Major General Sillaphakhom Eamwong Course NDC Class 66
The research study "Driving the Royal Thai Police toward becoming an
innovative organization to support government policies in crime prevention,
suppression, and law enforcement" has three primary objectives: (1) to investigate
scenarios for driving the Royal Thai Police toward becoming an innovative
organization, (2) to establish a future framework for driving the Royal Thai Police
toward becoming an innovative organization, and (3) to offer policy
recommendations for driving the Royal Thai Police toward becoming an innovative
organization. In order to obtain comprehensive perspectives that accurately reflect
the organization's practice, this research utilizes a mixed-methods approach, which
involves the collection of data from target groups at both executive and operational
levels through in-depth interviews, focus groups, and quantitative surveys. We then
apply this approach appropriately to the Thai police organization's context.
The research determined that "leadership" is the primary factor
influencing the organization's transition to an innovative state. This finding is
consistent with the Innovative Leadership theory, which underscores the importance
of the capacity to establish a vision, encourage creativity, and encourage an
environment that is conducive to innovation within the organization. In the interim,
the external factor that presents major obstacles to society and the police
organization is "technology," which has evolved rapidly and has led to the emergence
of new, more complicated forms of criminal activity. The researcher has established
a future framework that comprises four dimensions: (1) Innovation Excellence, in
which the organization consistently develops innovations with high efficiency; (2)
Potential Unleashed, in which the organization can fully utilize the potential of its
personnel and resources; (3) Tech-Driven Chaos, in which the organization
encounters challenges from new technologies and forms of crime; and (4) Stagnant
Shadow, in which the organization is unable to adapt quickly enough to changes.
This framework is based on foresight techniques applied for data analysis.
ง
Additionally, the research has integrated organizational accelerating strategies and
identified eight critical components: (1) leadership, (2) organizational culture,
(3) organizational vision, (4) human resource development, (5) organizational
information systems, (6) performance and success evaluation, (7) organizational
structure, and (8) activities promoting innovation and creativity. In three primary
dimensions: strategic direction, learning, and growth and value, these components
are consistent with the concept of innovation management.
This research is of the utmost significance to the Royal Thai Police's
future development, particularly in the following areas: (1) Strategic preparedness,
which assists senior executives in the effective planning and determination of
organizational development directions; (2) The workforce development, which
involves the design of training courses and the development of the potential of
police officers at all levels using the organizational driving approaches derived from
the research; (3) Work process improvement through the application of technology
and innovation in operations; (4) Collaboration building, which emphasizes the
establishment of networks and cooperation with various sectors; and (5)
Organizational image building through the development of an innovative
organization. The serious and continuous application of the research results will
enhance the organization's capabilities in crime prevention, suppression, and law
enforcement, aligning with government policies and public expectations.
The process of transforming into an innovative organization requires all
organizational sectors' dedicated effort and time. Consequently, this research serves
as the initial phase of a process that requires ongoing development and adaptation
to accommodate evolving circumstances in the future. The Royal Thai Police will be
able to sustainably evolve into an innovative organization by establishing an
innovation ecosystem within the organization, promoting continuous learning and
skill development of personnel, and creating an organizational culture that is
conducive to innovation. This will enable the organization to more effectively
address societal requirements and confront future challenges.
