เรื่อง: ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวของท้องถิ่น,(วปอ.10238)
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
มิติเศรษฐกิจ/Economics
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, นาย วุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ,(วปอ. 10238)
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2566
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
สาธารณะ
|
|
บทคัดย่อ:
ก
บทคัดย่อ
เร่ือง ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนนโยบายการ
ส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวของท้องถิ่น
ลักษณะวิชา การเศรษฐกิจ
ผู้วิจัย นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ หลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 66
การวิจัยฉบับนี้ วัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพ่ือศึกษาองค์ประกอบความร่วมมือระหว่าง
ภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวของท้องถิ่น 2) เพ่ือศึกษา
รูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวของท้องถิ่น
ในต่างประเทศ 3) เพ่ือวิเคราะห์ปัญหา และแนวทางการพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและ
เอกชนในการขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวของท้องถิ่น วิธีการวิจัย เป็นการวิจัยเชิง
คุณภาพ โดยการเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลหลักประกอบด้วย ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยว
ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้ดำรงตำแหน่งเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวของภาคเอกชน และผู้แทน
จากชุมชนหรือท้องถิ่น รวมจำนวน 15 ราย เครื่องมือในการวิจัยเป็นการสัมภาษณ์เชิงลึก การ
วิเคราะห์ข้อมูลใช้การพรรณนาความตามวัตถุประสงค์การวิจัย
ผลการวิจัย
1. องค์ประกอบในการขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวท้องถิ่น พบว่า
ภาครัฐและภาคเอกชน มีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ประการ คือ ด้านการวางแผน ด้านการแบ่งหน้าที่
ความรับผิดชอบ ด้านการเป็นเจ้าของร่วม ด้านการร่วมกันติดตามประเมินผลร่วมกัน
2. ผลการศึกษารูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนของต่างประเทศ (โดย
ศึกษาระหว่างกลุ่มประเทศยุโรป กับประเทศจีน) พบว่า กลุ่มประเทศยุโรปมีรูปแบบการมีส่วนร่วม
ในลักษณะการวางแผนอย่างมีขอบข่ายชัดเจน การมีเครือข่ายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวแบบ
หมุนเวียนเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการจัดการที่มีรัฐบาลเป็นศูนย์กลางในการจัดการการ
พัฒนาการท่องเที่ยว ส่วนประเทศจีน รัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบาย ปฏิรูประบบ
การบริหารจัดการ ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้าง
พ้ืนฐานต่าง ๆ รวมถึงที่อยู่อาศัย
3. ผลการศึกษาปัญหา และแนวทางการพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
ในการขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวของท้องถิ่น พบว่า ปัญหาการพัฒนาความร่วมมือ
ระหว่างภาครัฐและเอกชน มีประเด็นสำคัญ 4 ประเด็น คือ 1) ปัญหาการจํากัดการรับรู้เกี่ยวกับ
บทบาทความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน 2) ปัญหาการขาดนโยบายที่ชัดเจน3) ปัญหาการ
เปลี่ยนแปลงทางการเมืองบ่อยครั้ง 4) ปัญหาด้านกฎหมายจากปัญหาความร่วมมือระหว่างภาครัฐ
และเอกชนในการขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวของท้องถิ่น สำหรับแนวทางการ
พัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว
ของท้องถิ่นมี 5 แนวทาง ได้แก่ 1) ธุรกิจภาคเอกชน จะต้องมีการรวมกลุ่มของธุรกิจ เพ่ือเป็น
ประโยชน์ในการประสานความร่วมมือกับภาครัฐ รวมทั้งจะต้องบริหารจัดการองค์กรที่เอ้ือต่อการ
ข
ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน 2) องค์กรภาครัฐ ควรมีการพัฒนาช่องทางการติดต่อสื่อสาร
เพ่ือให้เกิดความสะดวกและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วม 3) ภาครัฐควรสร้างการ
รับรู้ และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบทบาทความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างทั่วถึงทั้ง
ในระดับนโยบาย ส่วนกลาง ระดับปฏิบัติ และส่วนท้องถิ่น เพ่ือให้เกิดกระบวนการความร่วมมือใน
เรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น 4) ควรมีกลไกการตรวจสอบคุณภาพของการบริการในการดําเนินกิจการของ
ภาคเอกชน เพ่ือป้องกันการลดทอนคุณภาพการให้บริการของภาคเอกชน และเป็นการลดภาระของ
ประชาชนผู้ใช้บริการด้วย 5) ควรแก้ไขพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ.2551
โดยการเพ่ิมสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายให้แก่ชุมชนและผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเขต
พัฒนาการท่องเที่ยว
abstract:
ค
Abstract
Title Cooperation between the public and private sectors in driving the
policy to promote local tourism businesses
Field Economics
Name Mr.Wuthichai Luangamornlert Course NDC Class 66
The three objectives of this research were 1) to study the elements of
cooperation between the public and private sectors in driving the policy of
promoting local tourism businesses; 2) to study the model of cooperation between
the public and private sectors in promoting local tourism businesses abroad; 3) to
analyze the problem and guidelines for developing cooperation between the public
and private sectors in driving the policy to promote local tourism businesses. The
research method is qualitative research by collecting information from key
informants consisting of persons holding positions related to the tourism business of
the Tourism Authority of Thailand, a person holding a position related to the private
sector tourism business, and representatives from the community or local area,
totaling 15 people. The research tool was in-depth interviews. The data were
analyzed using a description of the research objectives.
Research results
1. The components driving the policy to promote local tourism
businesses were found to be the public and private sectors. There are 4 important
elements: planning, division of responsibilities, joint ownership, joint monitoring and
evaluation.
2. The result of the study of the cooperation model between the public
and private sectors of foreign countries (by studying between European countries and
China) found that European countries have a clear form of participation in planning
with a clear scope. Having a circular tourism cooperation network is a paradigm shift
in management. with the government as the center for managing tourism
development As for China, the Chinese government plays an important role in
setting policies, reforming the management system, improving people's quality of life,
and building various facilities and infrastructure, including housing.
ง
3. The result of the study of problems and guidelines for developing
cooperation between the public and private sectors in driving the policy of
promoting local tourism businesses found that problems in the development of
cooperation between the public and private sectors There are 4 important issues: 1)
the problem of limited awareness of the role of cooperation between the public and
private sectors; 2) the problem of lack of clear policies; 3) the problem of frequent
political changes; 4) the problem of legal issues arising from the problem of
cooperation between the public and private sectors in driving policies to promote
local tourism businesses. As for the guidelines for developing cooperation between
the public and private sectors in driving the policy to promote local tourism
businesses, there are 5 guidelines: 1) Private sector businesses must form business
groups in order to be beneficial in coordinating cooperation with the public sector as
well. They must also manage the organization that facilitates cooperation with all
sectors; 2) Government organizations should develop communication channels to
create convenience and allow the private sector to participate; 3) The Government
sector should create awareness and correct understanding about the role of
cooperation between the public and private sectors, both at the central policy level.
operational and local levels to create a more collaborative process in such matters;
4) There should be a mechanism for inspecting the quality of services in the
operations of the private sector to prevent a reduction in the quality of services
provided by the private sector. This will also reduce the burden on the people who
use the services; 5) The National Tourism Policy Act of 2008 should be amended by
adding legal rights and duties to communities and tourism business operators in
tourism development zones.
