เรื่อง: แนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเพิ่มมูลค่า ทางเศรษฐกิจ,(วปอ.10154)
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
มิติเศรษฐกิจ/Economics
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, นาย ปพน ประยูรหงษ์,(วปอ. 10154)
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2566
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
สาธารณะ
|
|
บทคัดย่อ:
ก
บทคัดย่อ
เร่ือง แนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ลักษณะวิชา การเศรษฐกิจ
ผู้วิจัย นายปพน ประยูรหงษ์ หลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 66
การศึกษาเรื่อง แนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพ่ือเพ่ิมมูลค่าทางเศรษฐกิจ
มีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย
2)วิเคราะห์สภาพปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย และ
3) เสนอแนะแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพ่ือเพ่ิมมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ
จากงานวิจัย เอกสารทางวิชาการและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นเอกสารจากประมวลกฎหมาย
และบทความของผู้ทรงคุณวุฒิที่ เกี่ยวข้อง และข้อมูลปฐมภูมิ จากการสัมภาษณ์ และสอบถาม
เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการ
ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและ
ปริมณฑล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) การวิเคราะห์เปรียบเทียบ
สังเคราะห์ข้อมูลทฤษฎี หลักการต่างๆ และวิเคราะห์ทางสถิติ
ผลการวิจัยด้านสภาพปัจจุบันการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยพบว่า
แรงจูงใจในการเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้แก่ 1) ความสนใจ 2) ทัศนคติที่มีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
3) ประเภทอสังหาริมทรัพย์ 4) เป้าหมายหรือความคาดหวังในการเข้าสู่ธุรกิจ 5) คุณลักษณะของ
ผู้ประกอบการ และ 6) สิ่งล่อใจที่ทำให้มีผู้สนใจเข้าสู่ธุรกิจ ส่วนสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน
ประเทศไทย ธุรกิจที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 2567-2569 พบว่า มีแนวโน้มเติบโตอย่าง
ค่อยเป็นค่อยไป ยอดขายที่อยู่อาศัยจะทยอยฟ้ืนตัว และตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
จะปรับดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ด้านสภาพปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยพบว่า
ปัญหาและอุปสรรคที่ผู้ให้ข้อมูลพบเมื่อเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ 1) ผู้รับเหมาและการขาด
แคลนแรงงาน 2) ข้อจำกัดจากนโยบายของภาครัฐและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3) ต้นทุนทางการเงินที่สูง
4) ความเข้มงวดของนโยบายหรือมาตรการด้านสินเชื่อ 5) นโยบายภาษีที่ซับซ้อน 6) ทำเลที่ตั้งไม่ดี
7) การแข่งขันทางธุรกิจ 8) การขาดความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์ 9) บุคลากรไม่มีความรับผิดชอบ
10) ความล่าช้าในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการ และ 11) การเปลี่ยนแปลงความ
ต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภค สำหรับแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพ่ือเพ่ิมมูลค่าทาง
เศรษฐกิจมีดังนี้ 1) ตอบสนองความต้องการของตลาด 2) พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน 3) ส่งเสริมการ
ลงทุน 4) พัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน 5) พัฒนาทักษะแรงงาน 6) การวางแผนและการออกแบบ 7) การ
ก่อสร้าง 8) การขายและการตลาด 9) การพัฒนาโครงการที่มีความหลากหลาย และ 10) การบริหาร
จัดการของผู้ประกอบการ
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย รัฐบาลต้องสนับสนุนนโยบายการส่งเสริมการลงทุนธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด และหน่วยงานภาครัฐควรมีการประสานงานกัน
ข
ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพ่ือรองรับนโยบาย
“IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง”
abstract:
ค
Abstract
Title Guidelines for Real Estate Development to Increase Economic Value
Field Economics
Name Mr. Paphon Prayoonhong Couse NDC Class 66
The study of guidelines for real estate development to increase economic
value aimed to 1) study the current conditions of real estate business operations in
Thailand, 2) analyze problems and obstacles in Thailand's real estate business and 3)
recommend real estate development guidelines to increase economic value.
Secondary data were collected from research, academic documents, and related
literature including documents from the legal code and articles by related experts.
While primary data were collected from interviews and inquiries with government
officials related to real estate, real estate project developer, real estate business
entrepreneur and those involved in the real estate business in Bangkok and vicinity.
Data were then analyzed by using content analysis, comparative analysis, synthesis of
theoretical information and various principle, and perform statistical analysis.
The results of the research on the current conditions of the real estate
business in Thailand found that the motivations for entering the real estate business
included 1 ) interest, 2 ) attitude towards the real estate business, 3 ) type of real
estate, 4) goals or expectations for entering the real estate business, 5) characteristics
of entrepreneurs, and 6 ) temptations that made people interested in entering
business. As for the real estate business situation in Thailand, the residential business
in Bangkok and vicinity in 2024 -2026 was found to tend to grow gradually. Home
sales would gradually recover and the housing market in Bangkok and vicinity would
also improve gradually.
In terms of problems and obstacles in operating the real estate business
in Thailand, it was found that problems and obstacles that the informants
encountered when entering the real estate business included 1 ) contractors and
labor shortages, 2 ) limitations from government policies and related laws, 3 ) high
financial costs, 4) strictness of credit policies or measures, 5) complicated tax policy,
6) poor location, 7) business competition, 8) lack of knowledge about real estate, 9)
irresponsible personnel, 1 0 ) delays in coordinating with government agencies, and
11) changes in consumer needs and behavior. As of guidelines for real estate development
to increase economic value were as follows: 1) respond to market needs, 2) develop
infrastructure, 3) promote investment, 4) develop sustainable cities, 5) develop labor
ง
skills, 6 ) planning and design, 7 ) construction, 8 ) sales and marketing, 9 ) diversified
project development, and 10) entrepreneurial management.
Policy recommendations, the government must support policies to
promote real estate investment in accordance with the specified goals and
government agencies should have coordination between agencies involved in
promoting real estate investment to support the policy "IGNITE THAILAND: The point
of power uniting Thailand must be one"
