เรื่อง: แนวทางการบริหารจัดการของกองทัพบกในการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19), (วปอ.9501)
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
มิติการทหาร/Military
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, พลตรี จินตมัย ชีกว้าง, (วปอ.9501)
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2564
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
สาธารณะ
|
|
บทคัดย่อ:
ก
บทคัดย่อ
เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการของกองทัพบกในการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙
ลักษณะวิชา การทหาร
ผู้วิจัย พล.ต. จินตมัย ชีกว้าง หลักสูตร วปอ. รุ่นที่ ๖๔
วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาวิเคราะห์และเป็นแนวทางการบริหารจัดการของ
ทบ. ในการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ขอบเขตของการวิจัย การวิจัยนี้เน้นการศึกษาวิเคราะห์กระบวนการและรูปแบบการบริหารจัดการ
ของ ทบ. ในการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ในระดับ ทบ. จะไม่ลงลึกถึงการดําเนินการของหน่วยปฏิบัติวิธีดําเนินการวิจัย ๑. การรวบรวมข้อมูล
ประกอบด้วย ๑.๑ ข้อมูลปฐมภูมิดําเนินการโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้บริหารและนักวิชาการ
ด้านการแพทย์ของกองทัพบก ได้แก่ ผอ.ศบค. ๑๙ ทบ., ฝอ.ศบค. ๑๙ ทบ., ผบ.พัน. ในพื้นที่ ก.ท.,
ผอ.รพ.สนาม ทบ., เจ้าหน้าที่กรมควบควบคุมโรคที่ร่วมปฏิบัติงาน ๑.๒ ข้อมูลทุติยภูมิดําเนินการโดย
การศึกษาจากตําราและเอกสารต่างๆ ๒. การวิเคราะห์ข้อมูล ดําเนินการโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา
(Context Analysis) และการวิเคราะห์เปรียบเทียบ และสังเคราะห์ข้อมูลทฤษฎีหลักการต่าง ๆ และ
๓. การนําเสนอข้อมูล นําเสนอข้อมูลแบบรายงานวิจัยเชิงพรรณนาและวิเคราะห์นําเสนอแนวคิด
ใหม่ๆ จากการวิจัย ผลการวิจัย ๑. ความพร้อมในการรับมือการแพร่ระบาด ทั้งในแง่ของบุคลากร
เวชภัณฑ์และสถานที่ : กองทัพบกใช้ทรัพยากรที่มีอยู่นํามาประยุกต์ใช้ในภารกิจเพื่อให้ประชาชน
ได้รับประโยชน์สูงสุด โดยมีกรมแพทย์ทหารบกเป็นหน่วยงานด้านการแพทย์ของกองทัพบกและมี
ศบค.๑๙ ทบ. เป็นส่วนขับเคลื่อนให้นขต.ทบ. สามารถดําเนินการต่างๆ ๒. กลไกพิเศษ : โดยรัฐบาล
ได้จัดตั้ง ศบค. ของรัฐบาล และมีศปก.ศบค. คอยขับเคลื่อนงานต่างๆ ให้เป็นรูปธรรม ๓. กฎระเบียบ
ที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ๔. มาตรการเชิงรุกและบูรณาการการทํางานกับภาคส่วนต่างๆ การมีส่วน
ร่วมของภาครัฐและภาคเอกชน ๕. การปรับรูปแบบแนวทางการทํางานภายใน และการช่วยเหลือ
ประชาชน ๖. การสื่อสารสร้างการรับรู้ความรู้เข้าใจ ข้อเสนอแนะ จากผลการวิจัยดังกล่าวข้างต้น
ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะจากการวิจัย คือ การขับเคลื่อนกองทัพบกดิจิทัลเพื่อเป็นกลไกสําคัญในการ
สนับสนุนการปฏิบัติงานของรัฐบาลโดยการพัฒนานวัตกรรมหรือนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการ
ปฏิบัติงานและการช่วยเหลือประชาชน และให้คงคุณภาพของการปฏิบัติงานและการให้บริการ
ประชาชนเช่นเดิมแม้สภาวะวิกฤติจะคลี่คลายลง การพัฒนาแพลต การจัดทําและทบทวนแผนบริหาร
ความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนต่อสภาวะวิกฤติด้านโครงสร้างและการจัดหน่วย ด้านความ
พร้อมรบ ด้านความต่อเนื่องในการรบด้านความทันสมัย มีการซักซ้อม และปรับปรุงแผนเป็นประจํา
ทุกปีอย่างต่อเนื่อง
abstract:
Abstract
Title Research objectives are to study and analyze and is a management guideline of
the Royal Thai Army in helping people in the epidemic situation of coronavirus disease 2019.
Field Military
Name Maj.Gen. Jintamai Cheekwang Course NDC Class 64
Scope of research to focus on analytical studies. Processes and management styles
of the Royal Thai Army in helping people in the epidemic situation of the Coronavirus Disease
2019. At the Army level, it does not go into depth about the operations of the operational unit.
Methods of research 1. Data collection consisted of 1.1 primary data. Conducted in-depth
interviews with Executives and academics in the medical field of the Royal Thai Army, namely,
Commander-in-Chief. Department of Disease Control staff working together. 1.2 Secondary data
Conducted by the study of textbooks and documents. 2. Data analysis. Conducted by using
context analysis and analysis, comparison and synthesis of theories, principles. 3. Presentation of
information present data in a descriptive and analytical research report form Propose new ideas
from the research. Research results 1. Readiness to cope with the epidemic. Both in terms of
personnel, supplies, and locations: The Army uses its resources to implement its missions to
maximize the benefits of its citizens. with the Royal Thai Army Medical Department as a medical
unit of the Royal Thai Army, and BMTA 19, Royal Thai Army, as a driving force. 2. Enabling the
NDT to perform various operations of the government and having the NCPO drive various tasks.
3. Regulations used in emergency situations. 4. Proactive measures and integration of working
with various sectors Participation of the public and private sectors. 5. Adjusting the internal
working guidelines and helping people. 6. Communication creates awareness. Knowledge,
understanding, and recommendations from the above research results. The researcher has
suggestions from the research to drive the digital army as an important mechanism to support
the government's operations by developing innovations or using information technology in
operations and helping people. and to maintain the same quality of operations and service to
the people as the crisis subsides. structure and unit arrangement readiness for battle In terms of
continuity in combat modernization, there are annual rehearsals and improvements to the plan
continuously.
