เรื่อง: การพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตารวจ ในสังกัดกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์, (วปอ.8918)
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
มิติสังคม/สังคมจิตวิทยา/Social-Psychology
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร, พล.ต.ต. กิตติศักดิ์ ดรุงควิบูลย์, (วปอ.8918)
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2562
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
สาธารณะ
|
|
บทคัดย่อ:
ก
บทคัดย่อ
เรื่อง การพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต ารวจในสังกัดกองบังคับ
การปราบปรามการค้ามนุษย์
ลักษณะวิชา สังคมจิตวิทยา
ผู้วิจัย พลต ารวจตรี กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ หลักสูตร วปอ. รุ่นที่62
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพเป็นแนวทางหลัก เพื่อให้สามารถเข้าถึง
ข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลส าคัญ (Key Informant) ได้อย่างแท้จริง โดยได้ใช้เทคนิคการสัมภาษณ์เชิงลึก
(In-depth Interview โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถนะในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต ารวจ
ในสังกัดกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ในปัจจุบัน ศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน
ของเจ้าหน้าที่ต ารวจในสังกัดกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์และเพื่อหาแนวทางการพัฒนา
สมรรถนะในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต ารวจในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
โดยก าหนดผู้ให้ข้อมูลส าคัญออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. นักวิชาการหรือผู้ทรงคุณวุฒิในกระบวนการ
ยุติธรรมที่มีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ 2. เจ้าหน้าที่ต ารวจผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์
ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และ 3. เจ้าหน้าที่ต ารวจที่ปฏิบัติงานในสังกัดกองบังคับ
การปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมจ านวน 28 คน
ผลการศึกษา พบว่า สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ระดับดี
ในทุกด้าน โดยเจ้าหน้าที่ต ารวจให้ความส าคัญกับสมรรถนะด้านการบริการที่ดีเป็นล าดับแรก
รองลงมาเป็นสมรรถนะด้านการท างานเป็นทีม สมรรถนะด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณ สมรรถนะ
ด้านการมุ่งผลสัมฤทธิ์ และสมรรถนะด้านการพัฒนาตนเองตามล าดับ สมรรถนะตามสายงานที่ปฏิบัติ
ในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ระดับดีในทุกด้าน โดยเจ้าหน้าที่ต ารวจให้ความส าคัญกับสมรรถนะด้าน
การเข้าใจผู้อื่นเป็นล าดับแรก รองลงมาคือ สมรรถนะด้านความมั่นใจในตนเอง สมรรถนะด้านสภาวะ
ผู้น า สมรรถนะด้านการควบคุมตนเอง สมรรถนะด้านการคิดวิเคราะห์ และสมรรถนะด้านความรู้
ความสามารถเกี่ยวกับยุทธวิธีต ารวจ ตามล าดับ และปัญหาอุปสรรคที่ส าคัญในการปราบปราม
การค้ามนุษย์ คือ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้ามนุษย์การขาดความแม่นย าในการบังคับใช้กฎหมาย
ของเจ้าที่ต ารวจขาดความต่อเนื่องในการขยายผลการจับกุม การบูรณาการในการปฏิบัติของ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีน้อย เป็นต้น
ดังนั้น ส านักงานต ารวจแห่งชาติจะต้องให้ความส าคัญของระบบสมรรถนะมาใช้ในการ
บริหารงานบุคคลทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ การคัดเลือก สรรหา การแต่งตั้งโยกย้าย การประเมิน
การปฏิบัติราชการ ตลอดจนการพัฒนาบุคลากร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ต ารวจสามารถปฏิบัติหน้าที่
ตามกฎหมาย ซึ่งจะน ามาการรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ ผู้วิจัยจึงขอเสนอแนะให้มีการด าเนินการดังนี้ข
ส านักงานต ารวจแห่งชาติ
1. ควรจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อด าเนินการจัดท าต้นแบบสมรรถนะของข้าราชการ
ต ารวจแต่ละสายงาน โดยให้ข้าราชการต ารวจแต่ละระดับและแต่ละสายงานเข้ามามีส่วนร่วม
ในการพัฒนาตัวแบบสมรรถนะเพื่อให้เกิดการยอมรับ
2. ควรก าชับให้หน่วยงานในสังกัดน าแนวทางการปฏิบัติของตัวแบบสมรรถนะในการ
ปฏิบัติงานของข้าราชการแต่ละสายงานไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง และใช้เป็นกลไกในการพัฒนา
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของหน่วยงาน
3. ควรน าระบบสมรรถนะในการปฏิบัติงานมาใช้ประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง โยกย้าย
เนื่องจากสมรรถนะเป็นปัจจัยส าคัญที่จะขับเคลื่อนให้ข้าราชการต ารวจมีการพัฒนาและปฏิบัติงาน
ในต าแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์
1. ควรพัฒนาสมรรถนะและยกระดับหน่วยงานให้เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ
เฉพาะทางด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของส านักงานต ารวจแห่งชาติ โดยสามารถ
เป็นต้นแบบที่สามารถให้ความรู้และค าแนะน า รวมถึงสนับสนุนการปฏิบัติของหน่วยร่วมปฏิบัติ
ในสังกัดส านักงานต ารวจแห่งชาติ เพื่อให้มีการปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
2. ควรประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจ เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการพัฒนา
สมรรถนะในการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดการยอมรับในระบบสมรรถนะในการปฏิบัติงาน
3. การด าเนินการก าหนดสมรรถนะของหน่วยงานในแต่ละสายงานโดยเปิดโอกาส
ให้เจ้าหน้าที่ต ารวจแต่ละสายงานมีส่วนร่วมก าหนดสมรรถนะของแต่ละสายงานและแสดงความ
คิดเห็นเพิ่มเติม
4. น าหลักพิจารณาสมรรถนะในการปฏิบัติงานมาใช้ในการประเมินคุณสมบัติ
ผู้ที่จะแต่งตั้ง สร้างระบบจูงใจให้เจ้าหน้าที่ต ารวจในหน่วยเข้าร่วมและพัฒนาสมรรถนะในการ
ปฏิบัติงานโดยมีเงื่อนไขการแต่งตั้งโยกย้าย เลื่อนต าแหน่ง หรือการให้ขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ
หากสามารถพัฒนาสมรรถนะตนเองได้
5. พัฒนาสมรรถนะด้านความรู้โดยการจัดการองค์ความรู้ในงานด้านการป้องกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์ให้เป็นระบบ และจัดท าคู่มือในส่วนของมาตรฐานการปฏิบัติ (Standard
Operating Procedure) ในงานด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์
6. ด าเนินการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานตามระบบสมรรถนะในการ
ปฏิบัติงาน เพื่อแก้ไขและปรับปรุงให้เชื่อมโยงกับปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต ารวจในการปราบปราม
การค้ามนุษย์ให้มากที่สุด
abstract:
Abstract
Title : The development of performance in the performance of Anti
Trafficking in Persons Division
Filed : Social Psychology
Name : Pol.Maj.General Kitisak Durongkavibul Coues NDC Class 62
This research study uses a qualitative research method as the main guideline.
To gain access to information From key information providers (Key Informant) truly By
using in-depth interview techniques with the objective of studying the performance
of current police officers under the Suppression of Trafficking in Persons. Study the
problems and obstacles in the performance of police officers under the Suppression
of Human Trafficking Division. The key informants are classified into 3 groups : 1. Academic
or judicial experts with experience in human trafficking 2. qualified police officers with
experience in the prevention and suppression of human trafficking and 3. 28 police
officers working under the Suppression of Anti Trafficking in Persons Division.
The results of the study showed that the core competencies in performance
were good in all aspects. The police are the first priority of good service competency.
Followed by a team of competencies. Competencies in ethics and ethics Performance -
oriented competencies And self-development competencies, respectively. Overall
performance in the job performance was at a good level in all aspects. Police officers
put the first priority on the competencies of understanding, followed by the selfconfidence. Leadership Competencies Self-control competencies
Analytical thinking competencies And competency in knowledge and
competence in tactical police, respectively And the major obstacle in combating
human trafficking is the transformation of human trafficking models. Lack of accuracy
in law enforcement by the police. Lack of continuity in expanding arrest results. There is
little integration in the practice of related agencies. Therefore, the Royal Thai Police
must focus on the competency system used in the human resource management
process from the selection, recruitment, appointment, transfer. Official performance
assessment As well as human resource development So that the police can perform
their duties according to the law. This will be effective in maintaining order in life and
property of the people. The researcher therefore recommends the following actions :ง
The Royal Thai Police
1. A committee should be established to develop a model for the
competency of each police officer. By engaging police officers at each level and
department in the development of competency models to create acceptance.
2. The agency should be instructed to take the practice guidelines of the
competency model for each bureaucratic performance to be vigorously implemented.
And used as a mechanism for improving efficiency in the work of the agency.
3. The performance system should be used in consideration of the
appointment and transfer because competence is an important factor that drives the
development and operation of the police officers in Position effectively.
Anti Trafficking in Persons Division
1. The competency should be developed and elevated to a specialized
agency in the prevention and suppression of human trafficking of the Royal Thai
Police. They can be a model that can provide knowledge and advice. Including
supporting the operations of the Joint Action Unit under the Royal Thai Police To have
practice in the same way.
2. should publicize to create understanding. See the value and benefits
of the development of performance in order to create the acceptance of the
performance system.
3. The implementation of the competency determination of the departments
in each line by allowing the participation of police officers in each department.
Determine the competencies of each line and provide additional comments.
4. Apply the principles of performance consideration to the evaluation
of the candidate qualifications. Create a system to incentivize police officers in the
unit to join and develop their performance in terms of appointment and Transfer.
Promote Or giving a salary in a special case.
5. Develop knowledge competencies by systematically managing the
knowledge in human trafficking prevention and suppression work. And prepared a
manual on the part of the Standard Operating Procedure for work on combating
human trafficking.
6. Conduct monitoring and evaluation of performance according to the
performance performance system. To revise and improve the connection with the
police officers' work in combating human trafficking as possible.
