เรื่อง: การศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ,หากรัฐบาลไม่สามารถจัดเก็บภาษีอากรได้ตามเป้าหมาย,The effect of undertargeted tax collection to the National Economy Security.
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
ไม่ระบุ/not specified
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยเสนาธิการทหาร, นาย ปิ่นสาย สุรัสวดี
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยเสนาธิการทหาร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2555
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
เปิดเผยเฉพาะบางส่วน (ไม่เปิดเผยเนื้อหา)
|
|
บทคัดย่อ:
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : การศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
หากรัฐบาลไม่สามารถจัดเก็บภาษีอากรได้ตามเป้าหมาย
(The effect of undertargeted tax collection to the National
Economy Security)
โดย : นายปิ่นสาย สุรัสวดี
สาขาวิชา : เศรษฐกิจ
อาจารย์ที่ปรึกษาเอกสารวิจัย :
(น.อ. ชนินทร เฉลิมทรัพย์)
มิถุนายน 2557
การวิจัย เรื่อง “การศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
หากรัฐบาลไม่สามารถจัดเก็บภาษีอากรได้ตามเป้าหมาย” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี
ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ในเรื่องเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีอากร การจัดทำงบประมาณรายจ่าย
และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เพื่อศึกษาผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
กรณี รัฐบาลไม่สามารถจัดเก็บภาษีอากรได้ตามเป้าหมาย โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณ ภาพ
(Qualitative Research) แบบวิจัยเอกสาร (Documentary Research) และการสัมภาษณ์เชิงลึก
(In-depth Interview) โดยใช้ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary data) และข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary data)
ผลการวิจัยพบว่า การจัดเก็บภาษีอากรได้ต่ำกว่าเป้าหมาย จะก่อให้เกิดผลกระทบ
ทางการคลังและต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศดังนี้
1. การจัดเก็บภาษีอากรไม่ได้เล็กน้อย เช่น 10,000-20,000 ล้านบาท กรณีนี้
อาจมีผลต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชนบ้าง แต่ไม่มีผลต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากภาษี
อากรที่ต่ำกว่าเป้า 10,000–20,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยเพียงร้อยละ 0.1 ของ จีดี
พีซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ภาครัฐจะไม่สามารถเบิกจ่ายรายจ่ายภาครัฐได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ โดย
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สามารถเบิกจ่ายได้ประมาณร้อยละ 93.5 เท่านั้น นอกจากนี้ ในทางปฏิบัติรัฐอาจเลือกบริหารจัดการ โดยนำเงินคงคลังที่มีอยู่มาใช้ หรือหากเงินคงคลังไม่พอ
รัฐอาจจะทำการกู้เงินด้วยการออกพันธบัตรหรือตั๋วเงินคงคลังภายใต้กรอบกฎหมายที่กำหนด
2. การจัดเก็บภาษีอากรไม่ได้เป็นจำนวนมากแต่ยังพอเพียงต่องบรายจ่ายประจำ เช่น ช่วงวิกฤต
ต้มยำกุ้ง หรือวิกฤตการเงินสหรัฐ ในกรณีนี้จะมีผลต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก
งบลงทุนของภาครัฐซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจจะไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาค
เอกชนปรับลดแผนการลงทุนของตนซึ่งส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจจริง (Real Sector) เช่น การสร้าง
คอนโดมิเนียม ศูนย์การค้า โครงการบ้านจัดสรร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บริการพื้นฐานของภาครัฐยังสามารถ
ดำเนินต่อไปได้เนื่องจากกรณีนี้รายได้ภาษีอากรยังครอบคลุมรายจ่ายประจำอันได้แก่ เงินเดือน ค่าเช่า และ
ค่าสาธารณูปโภค ดังนั้น จึงจะไม่เกิดปัญหา Government Shutdown ดังเช่นในกรณีของสหรัฐฯ
3. การจัดเก็บภาษีอากรไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยงบประมาณไม่ครอบคลุมรายจ่ายประจำ
ในกรณีนี้ จะมีผลต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชนอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากงบลงทุนภาครัฐที่ลดลง
และอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating) ของประเทศที่อาจถูกปรับลดลง อันจะส่งผลต่อสภาพคล่อง
และต้นทุนการกู้ยืมของประเทศ รวมทั้ง อาจต้องมีการตกเบิก ปรับลดรายจ่ายประจำ หรือปรับลด
อัตราตำแหน่งหากไม่สามารถหารายได้อื่นๆ ที่มิใช่ภาษีมาทดแทนได้เพียงพอ ดังเห็นได้จากตัวอย่าง
ในหลายๆ ประเทศในยุโรป อาทิ กรีซ ไอร์แลนด์ และสเปน ซึ่งประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและ
การคลัง ส่งผลให้ต้องมีการปฏิรูประบบการคลังด้วยการปรับขึ้นอัตราภาษี หรือการปรับลด
งบประมาณรายจ่าย ด้วยการปรับลดอัตราเจ้าหน้าที่ภาครัฐ การปรับลดสวัสดิการ การรัดเข็มขัด
ทางการคลังดังกล่าวจะส่งผลให้เศรษฐกิจหดตัวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะทำให้รายได้ภาษีอากร
ปรับลดลงอีกเป็นวงจรอุบาทว์ (Vicious Cycle)
abstract:
ABSTRACT
Title : The effect of undertargeted tax collection to the National
Economy Security
By : Mr. Pinsai Suraswadi
Field : Economics
Adviser : Group Captain
(Chanintorn Chalfrmsup)
June 2014
The objective of this research was to study about the effect to the National
Economy Security in the case where the government was incapable of collecting the
amount of taxation as targeted. Many notions, theories, facts and laws regarding
Taxation, Budgetary System as well as National Economy Security had been
reviewed. This study was conducted by using a qualitative method, employing both
documentary researches and in-depth interviews using primary and secondary data.
The findings indicated that:
1. In the case where the tax collection was merely undertargeted,
approximately 10-20 Billion Baht below the target, there would not be a strong affect
to the economy as the undertargeted amount contributed to only 0.01% of GDP.
The study also revealed that in the past 10 fiscal years, the government spending
had never reached 100% of the set budget, yet the average rate is approximately at
the rate of 93.5%. In addition, the government might also opt to utilize the treasury
reserve or issue the treasury bonds as allowed by relevant laws. However, it is
undeniable that the undertargeted collection will slightly affect private confidence.
2. In the case where the tax collection is significantly below the target but
could still cover total government’s operational cost, such as during the Asian Crisis
and hamburger crisis, it would have a strong negative impact to private confidence
because the government investment spending contributed significantly to the country’s economic development. Moreover, private sectors will also reduce their
investment spending which will directly affect to the real sectors such as
construction. The government is still able to provide all public services as the tax
collection can cover government’s operational cost and will not be resulted in
government shutdown as seen in the United States of America.
3. In the case where the tax collection is significantly below the target and
cannot cover total government’s operational cost, it would have a serious impact to
private investment. Due to the reduced amount of Government’s investment
spending, it may result in the country’s rating being lowered and cost of borrowing
being higher. Should other sources of revenue cannot cover undertargeted tax
collection, the government may have to minimize operational costs as witnessed in
Greece, Ireland and Spain. These European countries had encountered economic
and fiscal crisis and had to adopt fiscal reform packages such as increase tax rates,
reduce government spending, reduce civil servant welfares, as well as lay off their
staff. Tightening fiscal expenditures would be resulted in economy recession which
will consequently lower the amount of tax collection and is considered to be vicious
cycle.
