เรื่อง: การประยุกต์ใช้เครือข่ายสังคม (Social Network) เพื่อการประชาสัมพันธ์ของกองทัพไทย,The application of Social Network for Public Relations of The Royal Thai Armed Forces.
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
ไม่ระบุ/not specified
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยเสนาธิการทหาร, พ.อ. ณัฐวุฒิ โสภณเสถียร
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยเสนาธิการทหาร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2555
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
เปิดเผยเฉพาะบางส่วน (ไม่เปิดเผยเนื้อหา)
|
|
บทคัดย่อ:
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : การประยุกต์ใช้เครือข่ายสังคม (Social Network) เพื่อการประชาสัมพันธ์ของกองทัพไทย
โดย : พันเอก ณัฐวุฒิ โสภณเสถียร
สาขาวิชา : วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
อาจารย์ที่ปรึกษาเอกสารวิจัย : พันเอก
(ประเทือง ปิยกะโพธิ์)
กรกฎาคม ๒๕๕๗
กองทัพไทย เป็นองค์กรหนึ่งที่มีหน่วยงานในการรับผิดชอบงานด้านการประชาสัมพันธ์
โดยตรง และเมื่อระบบเทคโนโลยีการสื่อสารมีการพัฒนาที่กว้างไกล หน่วยงานที่รับผิดชอบจึงมีความ
จำเป็นต้องพัฒนาแนวทางการประชาสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในยุคข้อมูลข่าวสาร
และการเติบโตของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายสังคม (Social Network) ดังนั้น
การประชาสัมพันธ์ในยุคปัจจุบัน นอกจากจะยึดแนวทางการดำเนินงานในแนวทางเดิม ๆ ไว้เป็น
บรรทัดฐาน แต่ต้องมีการปรับปรุงระบบและกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ในแนวทางใหม่ ๆ โดยเน้นการ
ประชาสัมพันธ์ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและนำเทคโนโลยี ตลอดจนเครื่องมือการสื่อสารมา
ประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมและสอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มประชาชนเป้าหมาย น่าจะทำให้
ภาพลักษณ์ของกองทัพไทยถูกนำเสนอผ่านสู่สายตาสาธารณชนได้อย่างรวดเร็วและแพร่หลายมากขึ้น
ประกอบกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันในเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)
จะทำให้ผลการดำเนินงานของกองทัพไทยถูกส่งต่อและเผยแพร่ด้วยระยะเวลาอันสั้น ช่วยประหยัด
งบประมาณแผ่นดิน รวมทั้งส่งผลให้การประชาสัมพันธ์ของกองทัพไทยมีความก้าวล้ำทันต่อยุคการ
สื่อสารไร้พรมแดนที่ผู้คนทั่วทุกมุมโลกจะสามารถรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับกองทัพไทยได้ทันท่วงที
การศึกษาวิจัยเรื่อง “การประยุกต์ใช้เครือข่ายสังคม (Social Network) เพื่อการประชาสัมพันธ์
ของกองทัพไทย”โดยใช้เครือข่ายสังคม (Social Network) เช่น Facebook , twitter , lineเป็นสื่อกลาง
ในการนำข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เผยแพร่ภาพลักษณ์ของกองทัพไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด
ทฤษฎี ด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับ การประชาสัมพันธ์ภายใต้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) และเพื่อศึกษาแนวทางในการ
ประยุกต์ใช้เครือข่ายสังคม (Social Network) เพื่อการประชาสัมพันธ์ของกองทัพไทย
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยต้องการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับ ระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศ และระบบ Social Network โดยมุ่งเน้นเฉพาะการศึกษาเฉพาะสื่อในระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศ ระบบอินเทอร์เน็ตและสื่อเครือข่ายสังคม คือ Facebook twitter และ line เท่านั้น
โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) แบบการวิเคราะห์จากเอกสาร (Documentary
Research) พร้อมทั้ง การเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (In-depth Interview) กลุ่มเป้าหมาย
ในการวิจัย คือ เว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของสังคมออนไลน์ นักวิชาการด้าน
การประชาสัมพันธ์ และ นายทหาร ที่ปฏิบัติงานด้านประชาสัมพันธ์และใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ในการเผยแพร่ข่าวสาร รวมทั้งการใช้ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary data) คือ ข้อมูลที่ได้จากเอกสาร
ทางวิชาการ แนวคิดทฤษฎี จากผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ รวมทั้ง
เว็บไซต์ต่าง ๆ และนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเอกสารและการสัมภาษณ์มาวิเคราะห์ข้อมูลและ
บรรยายเชิงวิเคราะห์เนื้อหาควบคู่ไปกับการอธิบายเชิงเหตุผล
ผลการวิจัยมีดังนี้ สิ่งที่ต้องดำเนินการในการจัดทำเพจ เฟสบุ๊คเพื่อประชาสัมพันธ์กองทัพไทย
สรุปว่า การประชาสัมพันธ์ผ่าน Social Network (ช่องทาง เฟสบุค) ต้องเน้นเรื่องช่วยเหลือประชาชน
ด้านต่าง ๆ เช่น การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ช่วยเหลือด้านยาเสพติด ข้อมูลที่จะนำไป
สื่อสารต้องเป็นประโยชน์และสามารถที่จะให้มีคนนำไปโพสต่อและมีการเผยแพร่ต่อไปเรื่อย ๆ ทำให้
เห็นว่า มีข้อมูลให้ขยายความต่อได้ ต้องทำตัวเป็นศูนย์ข่าวมีภาพที่สื่อความหมายได้ดี ทำให้คนสนใจ
อยากดู การนำเสนอข่าวสารผ่านโชเชียลมีเดีย ข่าวที่นำเสนอต้องอยู่บนหลักของความเป็นจริง
เนื่องจากประชาชนต้องการข่าวที่เป็นจริงและมีประโยชน์ต่อสังคม การตั้งทีม combat camera
เพื่อถ่ายภาพให้มีความสวยงาม มีศิลปะ ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีในการจัดทำเฟสบุ๊ค เนื่องจาก
กองทัพไทยกำลังเป็นที่จับตามองของประชาชน ดังนั้น สิ่งที่จะสามารถทำได้ คือ ภาพสวยคำพูดสละสลวย
สั้น ๆ ได้ใจความ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ ต่อประชาชนควรเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีบางข่าว
บางข้อความเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่น การรับสมัครต่าง ๆ กองทัพสามารถแนะนำประชาชน
ได้จึงต้องนำเสนอผ่านช่องทางนี้ และการสื่อสารผ่านเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
สามารถติดต่อกันได้อย่างไร้ขอบเขตไร้เสรีภาพ สิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้มีการนำข้อมูลข่าวสาร
ที่เป็นเท็จ นำเสนอผ่านเครือข่ายโซเชียลมีเดีย ดังนั้นจึงต้องหาทางป้องกัน
แนวโน้มการประชาสัมพันธ์ของกองทัพในอนาคตผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค ควรเน้นความ
รวดเร็วและสื่อด้วยภาพมากกว่าข้อความ การนำเสนอเนื้อหาผ่านเครื่องมือสื่อสารทั้งที่เป็นสื่อออนไลน์(Online Media) และสื่อออฟไลน์(Offline Media) ทั้งนี้องค์กรจะต้องปรับสภาพเนื้อหาที่
ต้องการประชาสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับเครื่องมือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น บล็อก ทวิตเตอร์เฟสบุ๊ค เว็บยูทูบ
และเครื่องมือใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดีหัวใจของการประชาสัมพันธ์ผ่าน Social Network
ไม่ว่าจะนำเสนอผ่านเครื่องมือใดองค์กรจะต้องนำเสนอเนื้อหาที่ผู้รับสารต้องการเปิดโอกาสให้ผู้รับสาร
มีส่วนร่วม กระตุ้นให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์(Interactive) รวมทั้งสร้างความผูกพัน (Engagement)
ให้เกิดขึ้นในชุมชนออนไลน์นั้น เพื่อนำมาซึ่งความสัมพันธ์ชื่อเสียง และภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร
ในที่สุด
abstract:
Abstract
Title : Social Network Application for Public Relation of The Royal Thai Armed Forces
Author : Col.Nuttawutdi Sobhonsathien
Field : Science and Technology
Research Advisor : Col.
(Pratuang Piyakapho)
july 2014
The Royal Thai Armed Forces owns a unit of public relation and this unit
needs to improve its public relations practice to correspond with the emerging up to
date technology of communication, the change to information technology era, and
the growing of information technology system and social network. The public
relations in this present time should improve its system and strategies by
emphasizing on the use of information technology system and apply appropriate
technology and communication devices, apart from using the normal public relations
practice. If the public relations practice of The Royal Thai Armed Forces can be
appropriately adjusted to the behavior of the right target group, it will then help to
present the image of The Royal Thai Armed Forces in the more rapid and more
extensive way. In addition, the exchange of information in social network will help to
spread out the overall achievement of the Royal Thai Army within the shorter time, it
also helps to economize on the budget for public relations purposes, and it will help
to modernize the public relations of The Royal Thai Armed Forces to become more
up to date, create no boundary public relations that everyone from the whole world
can perceive the information of The Royal Thai Armed Forces in due time.
The research titled “Social Network Application for Public Relation of The
Royal Thai Armed Forces” aims to study the ideas and theories about Public Relation
using Information System, to study the ideas and theories about Public Relation using Social Network and to study the application of Social Network for the Public Relation
of The Royal Thai Armed Forces.
The research was focused on the study about the media in Information
Technology system, Internet system and Social Network system which are Facebook,
Twitter and line. This qualitative research was conducted by Document analysis and
in-depth interview. The target group composed of webmasters of the well-known
websites in online community, public relations specialists, and military officers who
are responsible in public relations and use information technology system in the
information dissemination The research was also conducted by collecting and
reason-based analyzing the secondary data which derived from relevant documents
and theories from literature review as well as collecting the information in the
relevant websites.
The result of this research was described as the following:
The Public Relations of The Royal Thai Armed Forces through social network
(by Facebook) should emphasis on the public support activities such as flood
incidents or drugs problems. The information should be the useful one and it should
be worth to repost or re-distribute among the social network community. The Public
Relations of The Royal Thai Armed Forces should be the center of information,
showing the clear and attractive images. Moreover, the news reported through social
media should base on reality, correspond to people needs which are fact reports
and social benefit oriented news such as job application advertisement. In addition,
the Combat Camera Team should be set up, it is necessary to have skilled
photographers for Royal Thai Armed Forces Facebook because The Royal Thai
Armed Forces has currently risen in popularity. The most important thing is how to
find the way to protect the presentation of inaccurate information.
The future trend of Public Relations through social network of The Royal
Thai Armed Forces seems very crucial. It should be focused on the rapidity and the
contents should be represented in the form of images instead of text message, the
contents should be represented both online and offline as well. However, the organization should adjust the contents with the appropriate devices such as Blog,
twitter, facebook , youtube and other emerging devices. Finally, the most important
thing is that The Royal Thai Armed Forces should enhance the interactive activities
and encourage the engagement in this online community so that it can create the
relation, reputation and good image of its organization.
