เรื่อง: การพัฒนาแนวทางการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อย ตามลำแม่น้ำโขงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอีก 5 ปีข้างหน้า
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
ไม่ระบุ/not specified
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยเสนาธิการทหาร, น.อ. รพีพงศ์ มณีพรรณ ร.น.
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยเสนาธิการทหาร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2552
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
เปิดเผยเฉพาะบางส่วน (ไม่เปิดเผยเนื้อหา)
|
|
บทคัดย่อ:
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : การพัฒนาแนวทางการสกดัก้นัการลกัลอบล าเลียงยาเสพติดของ นรข.พ้ืนที่ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ในอีก ๕ ปี ข้างหน้า
โดย : นาวาเอก รพีพงศ์ มณีพรรณ ร.น.
สาขาวิชา : การทหาร
กรรมการที่ปรึกษาเอกสารวิจัย : นาวาเอก ร.น.
( ศิริพงศ์ ภมรบุตร)
กรกฎาคม ๒๕๕๔
จากการที่รัฐบาลได้ประกาศสงครามกับยาเสพติด เป็นต้นมา ส่งผลให้ปัญหายาเสพติด
ลดระดับความรุนแรงลงไปบ้าง แต่ยงัคงส่งผลกระทบต่อความมนั่ คงของชาติอย่างไรก็ตาม ยงัคงมี
ปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องอีกหลายประการจากภายนอก ที่ยงัเอ้ือให้ยาเสพติดยงัมีการผลิต และ น าเข้ามา
แพร่ระบาดในประเทศอยู่ ซ่ึงปัจจยัต่างๆ เหล่าน้ีหากหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการสกดัก้นัการลกัลอบ
น าเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ไม่มีมาตรการในการด าเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ก็จะเป็น
โอกาสให้ปัญหายาเสพติดขยายตวัมากข้ึนอีกคร้ัง
วัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัยในเรื่องน้ีคือ ๑) เพื่อศึกษาแนวทางสกัดก้ันการ
ลักลอบล าเลียงยาเสพติด ๒) เพื่อศึกษาแนวทางสกัดก้ันการลักลอบล าเลียงยาเสพติดของ นรข.
พ้ืนที่ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ และ ๓) เพื่อน าเสนอการพัฒนาแนวทางการสกัดก้ันการลักลอบ
ล าเลียงยาเสพติด ของ นรข.ในอีก ๕ ปี ข้างหน้า ส าหรับวิธีการวิจัยน้ัน ใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ
(QUALITATIVE RESEARCH) โดยท าการศึกษาวิเคราะห์ปัญหาข้อขัดข้อง ต่าง ๆ ของ นรข.ใน
การดา เนินงานสกัดก้ันการลกัลอบล าเลียงยาเสพติดเข้า ตามแนวชายแดนในพ้ืนที่รับผิดชอบของ
นรข. ระหว่างปี ๒๕๕๑ – ๒๕๕๒ และข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการสกัด
ก้นัยาเสพติด ของ นรข.
ผลการศึกษาวิจัยโดยสรุป ปัญหาการลักลอบน าเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนมี
สาเหตุปัจจัยหลายประการ อาทิเช่น การขาดแคลนเครื่องมือ/อุปกรณ์ในการตรวจค้นที่มีเทคโนโลยีสูง ก าลังเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องและเป็ นเครื่องมือให้กับกลุ่มขบวน
การค้ายาเสพติด การบูรณาการการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานยังไม่แน่นแฟ้น ขาดการบูรณาการ
ด้านข้อมูลข่าวสาร การขับเคลื่อนกลไกต่างๆ ของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดขาดความ
จริงจัง กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดมีการปรับเปลี่ยนวิธีการลักลอบน าเข้าเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุม
ของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ยังขาดองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขาดทักษะในการ
สื่อสารภาษาทอ้งถิ่น ขาดความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานข่าว ขาดการฝึ กเทคนิคเฉพาะในการ
ปฏิบัติงาน รวมท้งัยงัตอ้งปฏิบตัิภารกิจหลกัไดแ้ก่การป้องกนั ประเทศ การรักษาความมนั่ คงภายใน
ไปพร้อมๆ กัน ท าให้การปฏิบัติงานกระท าได้ไม่เต็มที่นัก ตลอดจนงบประมาณดา้นการสกัดก้นัยา
เสพติดก็มีอยู่อย่างจ ากัดไม่เพียงพอต่อเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ส่วนกลุ่มผู้ผลิตยาเสพติด
โดยเฉพาะยาบ้าภายนอกประเทศ ยังคงมีการลักลอบน าเข้าเป็นปริมาณมาก อย่างต่อเนื่อง
การวิจัยในคร้ังน้ี ผู้วิจัยได้วิเคราะห์สภาพปัญหาข้อขัดข้อง ต่างๆ จากการปฏิบัติงาน
ด้านยาเสพติดของ นรข.ในห้วงที่ผ่านมา เสนอแนะให้นรข.และ หน่วยที่ควบคุมทางยุทธการ ได้
พิจารณาปรับปรุง แก้ไขแนวทางการสกัดก้ันการลักลอบล าเลียงยาเสพติด ของ นรข.พ้ืนที่ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ควรจะเป็ น ในอีก ๕ ปี ข้างหน้า และพิจารณาเพิ่มงบประมาณในการ
ดา เนินงานสกดัก้นัยาเสพติดตามแนวชายแดน เพื่อจดั หาเครื่องมือ/อุปกรณ์เทคโนโลยีสูงส าหรับใช้
ในการตรวจค้นยาเสพติด กล้องตรวจการณ์ในเวลากลางคืน ยานพาหนะที่ไม่ใช่ของทางราชการ
ตลอดจนเพิ่มกา ลงัเจ้าหน้าที่ผูป้ ฏิบัติงานอย่างเพียงพอ จะท าให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมาก
ข้ึนABSTRACT
Title : Development guideline for drug smuggling interception in responsible area for
Mekhong riverine unit. Case study: North eastern part of Thailand in next 5 years
By : Captain Rapeepong Maneepan R.T.N.
Major Field : Military
Research Advisor : Captain R.T.N.
(Siripong Bhamornbutr)
July 2011
Drug trafficking in Thailand was reducing since the governmnet had
decrared war on drugs, yet it still effect on national security. However, many external
factors contribute the increasing of production and smuggling to disseminate in
Thailand. Again, drungs problem will grow if suppression has not been taken seriously
and continuously by the organization who responsible for it.
There are 3 objectives in this research which are; to study the methodology
of drugs smuggling inception, to study methodology of drugs smuggling inception of
Mekhong riverine unit in North eastern area of Thailand, and to define the
development guideline for drug smuggling interception in responsible area for
Mekhong riverine unit in next 5 years. This research used qualitative research
methodolgy to study and analyse problem of drug smuggling interception, which done
by Mekhong riverine units during the year 2008-2009 and gather data by interviewing
officer who were on duty in that period of time.
There are many reasons why drugs smuggling still occur in border area of
Thailand such as the lack of high technology tools and equipment for searching, the shortage of officers on duty, some of the officers are involved with drug trafficking
groups, loss of coordination operations integration, failure on information integration,
drug trafickking groups change the methods of drug smuggling to avoid arresting by
officers.
By analysing problems from the arressting operation by Mekhong riverine
units, researcher propose that Mekhong riverine units should develop guideline for
drug smuggling interception by increasing in budget to buy equipment and high
technology tools for searching drugs such as night vision goggle, general vehicle for
under cover jobs, including recruit more officers that adequate to operate on efficient
drug smuggling inception.
abstract:
ไม่มี
