เรื่อง: การวิเคราะห์ทัศนคติและการรับรู้ของประชาชนชาวไทยและกัมพูชาบริเวณช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ หรือใกล้เคียงเกี่ยวกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – พ.ศ.2553
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
ไม่ระบุ/not specified
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยเสนาธิการทหาร, พ.อ. เอกภาพ สุหร่าย
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยเสนาธิการทหาร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2551
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
เปิดเผยเฉพาะบางส่วน (ไม่เปิดเผยเนื้อหา)
|
|
บทคัดย่อ:
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : การวิเคราะห์ทัศนคติและการรับรู้ของประชาชนชาวไทยและกัมพูชา
บริเวณช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ หรือใกล้เคียง เกี่ยวกับสถานการณ์
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา ระหว่างปี ๒๕๕๒ – พ.ค. ๒๕๕๓
โดย : พันเอก เอกภาพ สุหร่าย
สาขาวิชา : การทหาร
อาจารย์ที่ปรึกษาเอกสารวิจัย : นาวาอากาศเอก
(มนูธรรม เนาว์นาน)
กรกฎาคม ๒๕๕๓
การศึกษาทัศนคติและการรับรู้ของประชาชนชาวไทยและกัมพูชาบริเวณช่องจอม จังหวัด
สุรินทร์ หรือใกล้เคียง เกี่ยวกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา ระหว่างปี ๒๕๕๒ –
พ.ค. ๒๕๕๓ น้นั สืบเนื่องมาจากผูเ้ขียนเคยเกี่ยวขอ้งกบั เหตุการณ์การสู้รบและการรักษาความสงบ
เรียบร้อยบริเวณชายแดน ไทย – กัมพูชา – ลาว มาเป็นเวลานับสิบปี ล่าสุดได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้า
ฝ่ ายข่าวกรองกองก าลังสุรนารี ในห้วงปี ๒๕๓๖ – ๒๕๔๒ จนกระท้งักองกา ลงัติดอาวุธของ ฝ่ายเขมร
แดงและกองก าลังของเจ้ารณฤทธิ์ ได้ถูกสลาย และมีรัฐบาลเดียวภายใต้การน าของ นาย ฮุนเซน
นายกรัฐมนตรี ภายหลงัจากน้นัผูน้ า ฝ่ายไทยหลายๆองคก์ร เชื่อว่าเหตุการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทย
กบักมั พูชาน่าจะดีข้ึนเรื่อยๆดว้ยการ ใชก้ารคา้ ,การท่องเที่ยว ,การให้การชว่ ยเหลือต่อฝ่ายกมั พชู าใน
ดา้นต่างๆ และการหลีกเลี่ยงเรื่องราวที่จะกระทบกระท้งักบักมัพูชาเพื่อรักษาผลประโยชน์ชายแดนเป็น
ตัวน า โดยไม่ได้มีการเตรียมการแก้ไขเรื่องราวที่ยังเป็นเงื่อนไขระหว่างกัน เช่น ปัญหาเส้นเขตแดนที่มี
ความเหลื่อมล้า ไมต่ รงกนั หลายแห่งท้งัทางพ้ืนดินและพ้ืนน้า และความขดัแยง้ทางประวตัศิาสตร์เป็น
ตน้ ซ่ึงหลงัจากน้นั เหตุการณ์ความสัมพนัธ์ระหว่างสองประเทศมีความเรียบร้อยในช่วงเวลาหน่ึง จน
กระท้งัเกิดเหตุการณ์การเผาสถานทูตไทยประจ ากัมพูชาปี ๒๕๔๖ จากสาเหตุการน าเรื่องราวทาง
ประวตัิศาสตร์มาแสวงประโยชน์ความเป็นชาตินิยมเพื่อผลการเลือกต้งั และความขดัแยง้ในปัจจุบนั ที่
เกิดจากเรื่องเส้นเขตแดนหลายๆแห่งโดยเฉพาะทางด้าน เขาพระวิหาร ท าให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่าง
กา ลงัทหารของท้งัสองฝ่าย มีการรบปะทะเกิดการสูญเสียหลายคร้ัง จากเหตุการณ์ความขดัแยง้ระหว่างไทย-กัมพูชาในปัจจุบันที่มีแนวโน้มที่อยากจะยุติดังกล่าว ผู้เขียนมีความสนใจการพัฒนาของ
เหตุการณ์ รวมถึงอยากทราบมุมมอง ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดข้ึน การเตรียมการรบั มือเมื่อเกิด
เหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน และขอ้เสนอแนะในการแกป้ ัญหาของประชาชนท้งัสองฝ่ายเพื่อ
เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา การเสนอแนะบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส าหรับการปรับแนวทางการ
ปฏิบตัิหรือเป็นขอ้มูลพ้ืนฐานในการพฒั นาแนวคิดต่อไป
ในการศึกษาขอ้มูลที่กล่าวมาน้นัผูเ้ขียนไดห้ ารือกับเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทางทหาร
กองก าลังสุรนารี ,กระทรวงต่างประเทศและผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติ จากมหาวิทยาลัยราชมงคล วิทยาเขต
สุรินทร์เกี่ยวกบัการจดัทา แบบสอบถามซ่ึงมีสองตอน ตอนที่หน่ึงเป็นการสอบถามขอ้มูลทวั่ ไปและ
ตอนที่สองเป็นสอบถามเกี่ยวกับการรับรู้และทศันคติของเป้าหมายจา นวน ๑๑ ขอ้ที่มีท้งัภาษาไทยและ
ภาษากัมพูชา แล้วน าข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์โดยดูจากความถี่ในแต่ละข้อ หาค่าร้อยละ แล้วน ามาแปรผล
โดยสรุปเป็นขอ้ความ ผลการศึกษาไดข้อ้มูลสรุปที่ส าคญั ดงัน้ี
ผู้ให้ข้อมูล มีจ านวน ๔๓๕ คน เป็นชาว ไทย ๓๖๐ คน และกัมพูชา ๗๕ คน อายุโดยเฉลี่ย
ประมาณ ๔๐ ปี ประชาชนชาวไทยส่วนมากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และรับจ้าง ประชาชนชาวกัมพูชา
ส่วนมากเป็น ผู้ประกอบการรายย่อยและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
การรับรู้ข้อมูลสถานการณ์ ส่วนมากมีความรับรู้ เชื่อว่าความสัมพันธ์ในระหว่างสอบถาม
อยู่ในข้นั ดีรับทราบจากสื่อโทรทัศน์และวิทยุเป็นส่วนมาก ราษฏรท้งัสองฝ่ายเชื่อว่าความขดัแยง้ของท้งั
สองประเทศมาจากเรื่องเส้นเขตแดน ความขดัแยง้ทางประวตัศิาสตร์และปัญหาทางการเมืองท้งภายใน ั
กบั ภายนอกของท้งัสองฝ่าย หากความสัมพันธ์ไม่ดีจะส่งผลกระทบเรื่องการลงทุน การท่องเที่ยว
ชีวิตประจ าวันและความปลอดภัยของประชาชน
การเตรียมการรับมือต่อเหตุการณ์หากความสัมพันธ์ไม่ดีประชาชนไทยมีความคิด
หลากหลายแต่พอสรุปได้ว่ายอมรับได้และมีความพร้อมต่อสถานการณ์และประชาชนกัมพูชาก็มี
แนวความคิดคล้ายกัน ,ส าหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา ประชาชนไทยอยากให้ปัญหาสงบโดยดี แต่มี
บางส่วนพร้อมที่จะช่วยเหลือทางราชการ ทางด้านประชาชนกัมพูชามีความคิดคล้ายกันแต่มองว่าฝ่ าย
ไทยละเมิดอธิปไตย อยากไดด้ินแดนกมัพูชาโดยเฉพาะเขาพระวิหารและปราสาทต่างๆ รวมท้งัอยากให้
ปัญหาความขดัแยง้ข้ึนสู่ศาลโลก ,ทางดา้นขอ้คิดเห็นอื่นๆ ประชาชนไทยมองต่างจากประชาชนกัมพูชา
โดยชาวไทยมองด้านผลกระทบที่เกิดจากทางด้านกัมพูชา เช่น ยาเสพติด การที่ชาวกัมพูชาสามารถน า
รถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาในเขตไทยแต่ฝ่ ายเดียวโดยไม่มีการตรวจสอบ ส่วนชาวกัมพูชามีความ
ต้องการความสงบ แต่มีมองเรื่องเส้นเขตแดนกับปัญหาการเมืองของไทยเป็นต้นตอของปัญหาทางด้านเจ้าหน้าที่ไทยมองไม่แตกต่างจากประชาชนไทยมากนัก แต่อยากให้มีการแก้ไข
ท้งัทางรุนแรง สันติและพร้อมทจี่ ะปฏิบตัิหนา้ที่ ทางดา้นเจา้หนา้ที่กมั พูชามองว่าฝ่ายไทยมีความ
ตอ้งการอยากไดด้ินแดนของกมั พูชาและอยากให้ฝ่ายไทยปฏิบตัิตามขอ้ตกลงฝรั่งเศส-สยาม
ปัญหาและอุปสรรค การจัดท าแบบสอบถามไม่สามารถระบุชื่อวิทยาลัยเสนาธิการทหาร
หรือชื่อสถาบนัอื่นได้ เนื่องจากขณะจดัทา เอกสารน้นั สถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่ดี ฝ่ าย
กัมพูชาจับกุมคนไทยข้อหาจารกรรม ผู้เขียนเกรงจะถูกมองว่าเข้าไปก้าวก่ายการแก้ไขปัญหาหรือการ
เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ซึ่งรวมไปถึงการแจกแบบสอบถามให้กับชาวกัมพูชา ผู้
ที่เกี่ยวข้องต้องมีความระวังตัวและใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว
ขอ้เสนอแนะ การศึกษาปัญหาชายแดนดงักล่าวแมว้่าจะเป็นการดา เนินการในช่วงเวลาส้ัน
และกระช้นั ชิด แต่ขอ้มูลที่ไดร้ับนบัว่าเป็นประโยชน์ท้งัต่อการศึกษา,ดา้นความมนั่ คงและดา้นอื่นๆ
หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการศึกษาอย่างเป็นระบบ จะท าให้ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง น าไปแก้ปัญหาได้
ตรงจุด เชื่อว่าผลที่ได้รับน่าจะช่วยลดปัญหาผลกระทบของประชาชนท้งัสองฝ่าย และเกิดมนั่ คงระหว่าง
ประเทศที่แท้จริงต่อไปABSTRACT
Title : The analysis of Thai and Cambodia people ’s attitude and
perception, Chong-Jom , Surin province or nearby for the relationship
situation between Thailand and Cambodia during 2552-2553 B.E.
By : Colonel Ekkaparb Surai
Major Field : Military
Research Advisor : Group Catain
(Manootham Nouanan)
July 2010
The analysis of Thai and Cambodia people ’s attitude and perception , Chong-Jom,
Surin province or nearby for the relationship situation between Thailand and Cambodia
during 2552-2553 B.E. Owing to the researcher has related with the fighting and
peace keeping events in the border area of Thailand -Cambodian-Lao for over 10 years
and latest has worked as a Chief of branch of intelligence of Suranaree Task Forces
during 2536-2542B.E. until the Armed Military Forces of Khmer Rouge and Prince
Roonarith were suppressed under control of the government of Prime Minister Hunsen
. After that action, many Thai leaders of organization believed that the relationship
between Thailand and Cambodia should improve better through means of commercial,
tourism, various assistance projects for Cambodia . The avoiding of argument against
Cambodia has been continuously done to proceed main interests among border line
without preparation of solving former problems such as overlapping of border line in
many places both land and water area, historical conflicts…etc. Later, the relationship
between two countries seemed to be stable for a short while . Until in 2003 the crisis situation of Thai embassy in Cambodia was burnt down since historical conflicts in the
old days, nationalism for election and current conflicts of border line especially the
case of Phraviharn Hill led into fighting between military forces of two countries .
Unfortunately, such fighting caused many loss of military lives . The trend of conflicts
between Thailand and Cambodia seemed to be hard to stop . The researcher was
interested in development of such events including wanted to realize the perspective
and the expected effect m the preparation of disturbance and violent situation in the
border area and the recommendation to involving personnel or units to adjust the
practical guideline or to be the fundamental information for developing further idea in
the future .
For studying such mentioned information , the researcher has discussed with
the intelligence officers of Suranaree Task Forces, Ministry of foreign affairs and the
statistical experts from Rajamonkol University, Surin Campus for the issue of creating
questionnaires . This questionnaire comprised of two section, First section was the
general information and the second section was the perception and attitude of the
target group , 11 items both in Thai and Cambodian language . The receive
information was analyzed through frequency of each item and calculation by means of
percentage and interpreted into statement .
The results concluded that ; there were 435 respondents , 360 Thai and 75
Cambodian, average age of 40 years . Thai people were state officers and employees,
most of Cambodian were entrepreneurs and state officers .
For the perception aspect , most of them believed that the relationship between
Thailand and Cambodia was in a good condition , they received information through
radio and television channel, both of them thought the conflicts of two countries came
from the conflicts of the border line , historical issues and both inside and outside
political problems in two countries. The bad relationship has affected the investment ,
tourism, lives style in their daily lives and of course, people security . The preparation for violent events could be happened from the bad situation of
two countries concluded that they was ready to prepare themselves and Cambodian
people has the same opinion for preparation . For the solving problems aspect, Thai
people wanted the problems stop as soon as possible peacefully and some was ready to
help government . Cambodian people also the same but they thought Thai violated
their territory particularly, the case of Phraviharn Hill and other famous castles . They
wanted the world court to justify such cases of problems . For the other issue , Thai
people paid attention to the effect happened from Cambodia such as drug addicts, the
rented motorcycle brought to Thai area without investigation . The Cambodian wanted
peace and they thought the border line was the origin of the whole existing problems .
For the Thai staffs had the same idea with normal Thai people but they liked
the way of solving problems in strong, peaceful and ready to operate their duties . For
the Cambodian staffs , they thought that Thai wanted to conquer Cambodian territories
. They wanted Thailand to agree with the Agreement of French-Siam in the past .
For the other obstacles and problems , the questionnaires can not specified the
title of Joint Staff College or the other institute name owing to during the period of
printing document, the bad situation between two countries still exists . The
Cambodian arrested Thai side and they were accused of espionage . Therefore, the
researcher is afraid of the interference of international affairs in other country
including distributing questionnaires to Cambodian people as well which meant the
personal relation .
The recommendation were the operation of solving problems was in the short
period and very rush . But involving receiving information paid very essential role in
various aspects including education, national security and other aspects . The relating
units should study systematically which receive accurate issues to solve problems
precisely . Finally, we hope that the results should solve problems and bring happiness
and permanent peace to two countries forever .
abstract:
ไม่มี
