เรื่อง: การมีส่วนร่วมทางการเมืองของข้าราชการในระบอบประชาธิปไตย ศึกษาเฉพาะกรณี : ข้าราชการทหารกองบัญชาการทหารสูงสุด (แจ้งวัฒนะ)
|
|
หมวดหมู่:
|
งานวิจัย
|
มิติ:
|
ไม่ระบุ/not specified
|
พื้นที่/ขอบเขต:
|
ภายในประเทศ/Domestic/Local
|
ผู้เขียน:
|
วิทยาลัยเสนาธิการทหาร, พ.อ. มานพ อินทรแพทย์
|
หน่วยงานเจ้าของ:
|
วิทยาลัยเสนาธิการทหาร
|
ปีที่พิมพ์:
|
2547
|
จำนวนหน้า:
|
|
การเปิดเผยข้อมูล:
|
เปิดเผยเฉพาะบางส่วน (ไม่เปิดเผยเนื้อหา)
|
|
บทคัดย่อ:
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : การมีส่วนร่วมทางการเมืองของข้าราชการในระบอบประชาธิปไตย
ศึกษาเฉพาะกรณี : ข้าราชการกองบัญชาการทหารสูงสุด ( แจ้งวัฒนะ )
โดย : พันเอก มานพ อินทรแพทย์
สาขาวิชา : การเมือง
อาจารย์ที่ปรึกษาเอกสารวิจัย : นาวาอากาศเอก
( จิรศักดิ์ เรืองจวง )
พฤษภาคม ๒๕๔๙
จากสภาพการเมืองในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีความสนใจ
ทางการเมืองเป็นอย่างมาก มีความกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยดูได้จากการไปใช้
สิทธิลงคะแนนออกเสียงเลือกต้งั การเป็นสมาชิกพรรคการเมือง การสนับสนุนพรรคการเมือง
การชุมนุมเรียกร้องสิทธ์ิ การชุมนุมเพื่อประทว้งขบัไล่ รวมท้งัการจดั ต้งัองคก์รต่างๆข้ึนมา
ด าเนินกิจกรรมทางการเมืองเป็นต้น แต่ในทางตรงกันข้ามข้าราชการซึ่งก็คือประชาชนคนไทยคน
หนึ่งสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองได้ในขีดจ ากัดด้วยกฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆมากมาย
ที่ก าหนดห้ามข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องการเมือง ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกพรรคการเมือง การ
สนับสนุนพรรคการเมือง การประท้วงขับไล่หรือชุมนุมเรียกร้องสิทธิ์ การเป็นสมาชิกพรรค
การเมือง เพราะได้ก าหนดให้ข้าราชการวางตวัเป็นกลางทางการเมือง เมื่อเป็นเช่นน้ีทา ให้
ข้าราชการมีส่วนร่วมทางการเมืองน้อยมาก
การวิจยัคร้ังน้ีมีสาเหตุมาจากการที่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี ๒๕๔๐
ได้บัญญัติเรื่องการมีส่วนร่วมไว้เป็นหลักการปฏิบัติเพื่อน าไปสู่ผลของการปกครองตามระบอบ
ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์สมดังเจตนารมณ์ในระบอบประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมทางการเมือง ถือ
เป็นปัจจัยส าคัญอย่างหนึ่งและประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีการปกครองประเทศด้วยระบอบ
ประชาธิปไตย แต่ปัญหาการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง ก็ยังปรากฏอยู่ อาจ มีความเข้าใจว่า
การเมืองเป็นเรื่องของบุคคลช้ันปกครอง ส่งผลให้ประชาธิปไตยในประเทศของเราไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าที่ควร เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ดงัน้นั ขา้ราชการทหาร
กองบญั ชาการทหารสูงสุดที่ปฏิบตัิหนา้ที่เกี่ยวกบัความมนั่ คงของชาติ ซ่ึงตอ้งติดตามสถานการณ์
ต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา
ในฐานะที่ทหารเป็นองค์กรหนึ่งของรัฐ ข้าราชการทหารก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ซึ่ง
จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในพัฒนาประเทศโดยอาศัยทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
ข้าราชการทหารต้องสนใจการเมือง มีส่วนร่วมทางการเมืองถึงแม้จะอยู่ในขอบเขตที่จ ากัดเป็นการ
ตดัสินใจดว้ยตวัเองมิใช่เกิดจากการช้ีนา ผูศ้ึกษาจึงมีความสนใจที่จะทา การศึกษาว่าขา้ราชการ
ทหารกองบัญชาการทหารสูงสุด มีส่วนร่วมทางการเมืองในระดับใด และมีปัจจัยอะไรที่ส่งผลต่อ
การมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมทางการเมือง
ของข้าราชการกองบัญชาการทหารสูงสุด ศึกษาความแตกต่าง การมีส่วนร่วมทางการเมืองของ
ข้าราชการกองบัญชาการทหารสูงสุดและศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการมีส่วนร่วมทางการ
เมืองของข้าราชการกองบัญชาการทหารสูงสุด
ผลของการวิจัยพบว่าข้าราชการกองบัญชาการทหารสูงสุด ศึกษานโยบายของพรรค
การเมืองก่อนที่จะไปใชส้ิทธ์ิเลือกต้งัดว้ยเพราะนโยบายของพรรคเป็นสิ่งที่จะช้ีว่าเมื่อไดร้ับเลือกต้งั
แลว้พรรคจะให้อะไรกบัผูเ้ลือกต้งั พรรคการเมืองที่ผู้สมัครสังกัดและประสบการณ์ทางการเมือง
ของผู้สมัครมีผลต่อการตัดสินใจจะเลือกใคร ส่วนการเป็นทายาททางการเมืองของผู้สมัครรับ
เลือกต้งัและข่าวสารที่ไดร้ับจากสื่อไม่มีผลทา ให้เกิดแรงจูงใจต่อการตดัสินใจเลือกต้งั ในภาพรวม
ของการมีส่วนร่วมทางการเมือง ข้าราชการกองบัญชาการทหารสูงสุดมีความสนใจทางการเมือง
และติดตามข่าวสารทางการเมืองอยู่ในระดับปานกลางแต่การไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกต้งัอยู่ใน
ระดับน้อย
ดงัน้นัจึงขอเสนอแนะส าหรับการเสริมสร้างระบอบประชาธิปไตย หน่วยงานของรัฐ
จะต้องให้ความส าคัญกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของข้าราชการ ก าหนดมาตรการแรงจูงใจและ
ผลักดันให้ข้าราชการมีความสนใจมีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากที่สุด ส านึกในความเป็น
เจ้าหน้าที่ของรัฐ ส านึกในความเป็นประชาชนคนไทยเพื่อระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ABSTRACT
Title : Political Paticipation of Government Officers in Democracy.
Case Study : The Supream Comman Headquarters ( Jangwattana )
By : Colonel Manop Intaraphat
Major : Politics
Thesis Advisor : Group. Captain
( Jeerasak Ruangjeung )
May 2006
From the political situation today it is obvious that most citizen pay considerable
intention to politics. Many people are quite enthusiastic, evidently by percentages of voters,
number of political party members, supporters or protesters and also establishment of several
organizations related to politics. In contrast, government officers who are of course regular Thai
citizens have limitations to be involved in political movement due to law and regulations.
Government officers are meant to be neutral, not allowed to be members of political party or
support any political parties in anyway. Therefore, political involvement of government officers
is minimal.
This research is from the fact that the Constitution of Thailand promulgated in 1997
signifies and encourages involvement in democracy. However, problems still exist. There may
be belief that politics are the matters of people in the administration level. Consequently, the
country’s democracy is not yet fully achieved. Therefore, to meet the intention of the
Constitution, military officers of The Supream Comman Headquarters must protect the
nation’s security and must follow the situation all the time.
As a state agency, military is also Thai citizen who must be a part of the country
development. Military officers must be interested in politics even though involvement is restricted and, more importantly, by its own will not by force. Researcher would like to find out
about the level of involvement among military officers of The Supream Comman Headquarters
and what kinds of factors influencing such political involvement. The objective of the research is
to study the political involvement of military officers of The Supream Comman Headquarters
and the rationale related to such involvement.
The findings of this research show that military officers of The Supream Comman
Headquarters do study about the policies of political parties before cashing their votes. The
policies of political parties, and political experiences of the candidates are among the most
important reasons for election decision. In contrast, being relatives to people in politics or news
from media have no effects in the election decision. Overall, military officers of The Supream
Comman Headquarters pay interests in political movement and keep themselves posted to the
news and information in medium level, but use their rights to vote in lower level.
Therefore, one recommendation to improve democracy is that government agencies
must pay attention to the political involvement of government officers by impose incentive
measures and motivate government officers’ interest to be involved in politics as much as
possible and being aware in their responsibility as government officers as well as a Thai citizen
for a perfect democracy.
abstract:
ไม่มี
